ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สองคนร้ายขับรถเก๋งชิงเงินสด 4 แสนบาท ของสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านป่ายาง กลางเมืองหาดใหญ่ ขณะเหรัญญิกขับรถกระบะกลับจากเบิกเงินจากธนาคาร และยางล้อรถเกิดรั่ว ตำรวจคนร้ายคาดวางแผนมาเป็นอย่างดีเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้(22 ก.ค.) ร.ต.อ.วิโรจน์ อินทรเพชร ร้อยเวร สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุชิงทรัพย์กันขึ้นบริเวณหน้าโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา ถนนเพชรเกษม ติดกับที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.จีรวัฒน์ พยุงธรรม ผกก. พ.ต.ท.เอกณรงค์ สวัสดิการนน์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เอกรัฐ สวนแสน สว.สส.และร.ต.อ.ปิยพล แป้นแก้ว รอง สว.สส.
ที่เกิดเหตุพบ นายวิเชียร ชูมนตรี อายุ 37 ปี เป็นเหรัญญิกของสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านป่ายาง ม.9 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ซึ่งยังอยู่ในอาการตื่นตระหนกยืนอยู่ข้างๆ รถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ รุ่นพรีรันเนอร์ สีดำ ทะเบียน ผข 7289 สงขลา ที่จอดอยู่ริมถนนซึ่งล้อหลังด้านซ้ายรั่วและแบน
จากการสอบสวนให้การว่าขณะที่ขับรถยนต์กระบะกลับจากเบิกเงินสดจำนวน 4 แสนบาท จากธนาคารกรุงไทย สาขาถนนเพชรเกษม แต่รถมีการอาการผิดปกติส่ายไปมาจึงได้เลี้ยวจอดริมถนนและเปิดประตูลงมาดูพบว่าล้อหลังด้านซ้ายรั่ว แต่ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายสองคนขับรถเก๋งไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนมาประกบด้านข้างรถกระบะและหนึ่งในคนร้ายได้ลงมาเปิดประตูรถและหยิบเอากระเป๋าที่มีเงินสด 4 แสนบาทไป แม้จะมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์จะพยายามเข้าช่วยกระชากกระเป๋าแต่ก็ถูกคนร้ายผลักจนล้มและขึ้นรถขับหลบไป โดยคนร้ายที่ลงมาชิงกระเป๋ารูปร่างอ้วนเตี้ย สวมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนรองเท้าผ้าใบ
นายวิเชียร บอกว่า เงินทั้งหมดเป็นเงินที่เบิกไปใช้ซื้อน้ำยางของสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านป่างาม ซึ่งในช่วงบ่ายตนจะออกมาเบิกทุกวัน โดยคาดว่าคนร้ายน่าจะติดตามมาตั้งแต่ธนาคารเมื่อรถจอดจึงได้ลงมาชิงเงินสดไป
อย่างไรก็ตามจากการประมวลเหตุการณ์ตำรวจคาดว่าคนร้ายมีการวางแผนมาเป็นอย่างดีและน่าจะทราบความเคลื่อนไหวการเบิกจ่ายเงินของสหกรณ์แห่งนี้ และเป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะวางเรือใบเพื่อให้ยางล้อรั่วและฉวยโอกาสชิงเงินระหว่างทาง
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่วิทยาการได้มาทำการเก็บลายนิ้วมือแฝงคนร้ายและจะประสานกับทางเทศบาลนครหาดใหญ่เพื่อขอภาพวงจรปิดตลอดเส้นทางเกิดเหตุตั้งแต่หน้าธนาคารกรุงไทยจนมาถึงจุดเกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสของคนร้ายทั้งสองคน
