ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อบจ.ภูเก็ต จัดอบรมส่งเสริมการอบรม ทสม.น้อย รุ่นที่ 5 พื้นที่ ต.ป่าคลอก เพื่อบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในชุมชน
วันนี้ (20 ก.ค.) นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสม.น้อย) รุ่นที่ 5 ณ ห้องประชุมศูนย์พัฒนาการสวัสดิการผู้สูงอายุจังหวัดภูเก็ต ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยมีนายสวัสดิ์ มัจฉาเวช สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่จาก อบจ.ภูเก็ต เข้าร่วมกิจกรรมการฝึกอบรม ทสม.น้อย รุ่นที่ 5 ในพื้นที่ตำบลป่าคลอกครั้งนี้ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20-21 กรกฎาคม 2554
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้แกนนำในชุมชน และเยาวชน แกนนำที่เป็นเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.น้อย) มีความรู้ความเข้าใจด้านการบริหารทรัพยากรธรรมชาติฯ เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและในโรงเรียนได้ โดยให้แกนนำ ชุมชน และเยาวชนแกนนำ เข้าใจบทบาทหน้าที่ของ ทสม.
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายก อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า “เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า จังหวัดภูเก็ตได้มีการพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์และด้านธุรกิจการท่องเที่ยว ในแต่ละปีรัฐบาลได้มีนโยบายที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้นักท่องเที่ยว เข้ามาเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจังหวัดภูเก็ตปีละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการขยายสนามบินเพิ่มขึ้น มีการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ และโครงการพัฒนาอื่นๆ ตามมามากมาย อันจะส่งผลให้มีการโยกย้ายถิ่นฐานของประชากรในประเทศเข้ามาอาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น และปัจจุบันนี้เราจะเห็นว่าพื้นที่ของตำบลป่าคลอกได้มีโครงการบ้านจัดสรรเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ตำบลป่าคลอกเหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ น่าจะเนื่องมาจากการที่ตำบลป่าคลอกมีความสงบ ร่มเย็น ชุมชนมีความเข้มแข็ง มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และที่สำคัญ มีทรัพยากรธรรมชาติ ที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นป่าบกและป่าชายเลน
ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ จำเป็นอย่างยิ่งชาวตำบลป่าคลอก จะต้องตื่นตัวเตรียมความพร้อม ในการเผชิญกับปัญหาที่อาจจะตามมา เหมือนกับชุมชนขนาดใหญ่ในจังหวัดภูเก็ตที่เป็นอยู่ขณะนี้ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องขยะ ซึ่งจะเห็นว่าที่ใดที่มีคนอาศัยอยู่มากๆ ก็จะมีขยะมากตามไปด้วย เนื่องจากทุกคนต้องมีการจับจ่ายใช้สอยซื้อหาอาหาร เมื่อเหลือจากการใช้ประโยชน์ส่วนหนึ่งก็จะกลายเป็นขยะ
ดังนั้น หากทุกคนทิ้งขยะหรือสิ่งของที่ตนคิดว่าไม่มีประโยชน์สำหรับตนทุกวัน โดยไม่มีการคัดแยกหรือนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น ขยะก็คงจะล้นเกาะภูเก็ตในอีกไม่นาน และในขณะนี้หากทุกท่านเดินทางไปไหนในจังหวัดภูเก็ต ก็เริ่มจะเห็นว่ามีขยะตกค้างอยู่สองข้างถนนในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าทุกคนคงไม่อยากเห็นสภาพเช่นนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ตำบลป่าคลอก
แต่ปัญหานี้แก้ได้ไม่ยาก หากทุกคน ทุกภาคส่วน ร่วมมือกันโดยการคัดแยกขยะก่อนที่จะทิ้งลงถัง เพราะจากการวิเคราะห์องค์ประกอบของขยะในจังหวัดภูเก็ต พบว่า 60% เป็นขยะอินทรีย์ 34% เป็นขยะรีไซเคิล ส่วนที่เหลือเป็นขยะทั่วไปและขยะอันตราย ดังนั้นหากได้มีการคัดแยกขยะอย่างจริงจังจากแหล่งกำเนิด ก็จะเหลือขยะที่ต้องทิ้งลงถังไม่ถึง 10% ของปริมาณขยะทั้งหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำไห้จังหวัดภูเก็ตมีความสะอาด น่าอยู่ มากยิ่งขึ้น แต่การจะทำเช่นนี้ได้ จำเป็นต้องมีเครือข่ายทั้งภาคประชาชน และเยาวชนเป็นแกนนำในการถ่ายทอดความรู้ไปยังชุมชนและสถานศึกษาให้ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งเชื่อว่าชาวตำบลป่าคลอกจะทำได้
สำหรับการจัดการฝึกอบรมในครั้งนี้ ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จึงขอให้ผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมได้มีความตั้งใจและให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดความรู้ของวิทยากร เนื่องจากทุกท่านล้วนมีประสบการณ์ในการปฏิบัติจริงที่สะสมมายาวนาน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมสามารถที่จะบริหารจัดการขยะในชุมชนได้และสามารถถ่ายทอดไปยังบุคคลอื่นได้ต่อไป
นอกจากนี้ ขอให้นักเรียนทุกคนที่เข้ารับการอบรมมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นแบบอย่างในการเป็นจิตอาสา ใช้กระดาษอย่างรู้คุณค่า และใช้เวลาให้มีค่ามากที่สุด เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคมต่อไป และต้องขอขอบคุณคณะผู้จัดการฝึกอบรม คณะวิทยากร และผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกท่านที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่าได้มีส่วนร่วมให้เกิดกิจกรรมที่ดีเช่นนี้ขึ้น