ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจสงขลาเปิดฉากปะทะคนร้าย ขณะนำหมายจับเข้าปิดล้อมบ้านพักถูกยิงสวนได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ขณะที่คนร้ายถูกยิงบาดเจ็บแต่หลบหนีไปได้ ด้านญาติร้องขอความเป็นธรรมอ้างตำรวจทำเกินกว่าเหตุ
วันนี้ (6 ก.ค.) กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นำโดย ร.ต.ท.สุชาติ ขุนเดช รอง สวป. ภ.จว.สงขลา พร้อมกำลังตำรวจกว่า 10 นาย นำหมายจับของศาล จ.สงขลา 3 หมายจับ เข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 57/6 บ้านตะเคียนเภา ม.4 ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อจับกุม นายดนมะหนับ หัสเส็ม อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงาน คดียาเสพติด และยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่ปรากฏว่า ขณะเข้าจับกุมได้ถูกนายดนมะหนับใช้อาวุธปืนคาร์บินยิงใส่เจ้าหน้าที่ กระสุนถูก ร.ต.ท.สุชาติ ขุนเดช รองสารวัตรป้องกันปราบปรามตำรวจภูธร จ.สงขลา เข้าที่บริเวณเอว และกระสุนฝังในได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
ส่วนนายดนมะหนับถูกเจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขน แต่สามารถฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่หลบหนีไปได้ และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่เจ้าหน้าที่พยายายามติดตามจับกุมนายดนมะหนับ แต่ก็ยังคว้าน้ำเหลว อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้ลงพื้นที่เพื่อวางแผนติดตามไล่ล่านายดนมะหนับ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะกบดานอยู่ในพื้นที่เนื่องจากถูกยิงบาดเจ็บ
สำหรับนายดนมะหนับ เป็นผู้ต้องหาที่ตำรวจต้องการตัวมากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งมีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด และพยายามฆ่าตำรวจ และสามารถหนีรอดไปได้ทุกครั้งขณะที่ตำรวจพยายามจับกุม
โดยครั้งแรกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.สะเดา ได้เข้าล่อซื้อยาบ้าที่บ้านไม่มีเลขที่ ถนนเลียบรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย เมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา แต่ถูกนายดนมะหนับยิงต่อสู้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และนายกริช หัสเล้ม ลูกชายถูกวิสามัญฯ และครั้งที่สอง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พยายามเข้าปิดล้อมจับกุมอีกครั้งแต่ก็สามารถหนีไปได้ และล่าสุดในวันนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบที่กบดาน และพยายามเข้าปิดล้อมจับกุม แต่ก็พลาดและตำรวจยังถูกยิงบาดเจ็บอีกหนึ่งนาย
อย่างไรก็ตาม หลังจากการยิงปะทะในครั้งนี้ ญาติและชาวบ้านบางส่วนไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่าทำเกินกว่าเหตุ โดยนางอุษนีย์ นิลนาม ลูกสาวนายดนมะหนับ บอกว่า ทั้งพ่อ และน้องชายที่เสียไปแล้ว ถูกใส่ร้ายมาตลอดว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งเหตุที่พ่อต้องหนีและไม่ยอมเข้ามอบตัวและต้องต่อสู้กับตำรวจทุกครั้งที่เข้าจับกุมเพราะโกรธแค้นที่ตำรวจยิงน้องชายเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา
ด้านนายสายัณย์ หมัดเต๊ะ ชาวบ้านในละแวกเกิดเหตุเผยว่า ไม่ทราบว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นอย่างไร แต่การที่ตำรวจยิงในที่ชุมชนเป็นการทำเกินกว่าเหตุเพราะชาวบ้านอาจได้รับอันตรายได้