ผู้มาใช้สิทธิยะลาร้อง กกต.จัดคูหาน้อย ทำให้ต้องใช้เวลานาน

ยะลา - ผู้ใช้สิทธิจังหวัดยะลาร้อง กกต.จัดคูหาที่ใช้ลงคะแนนเสียงมีน้อย ต้องใช้เวลารอคิวนานโดยใช่เหตุ ทำให้เกิดความสงสัยว่ากกต.ได้รับงบประมาณมาก แต่นำมาให้กาสนับสนุนการเลือกตั้งน้อยมาก

วันนี้ (3 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการมาใช้สิทธิการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของจังหวัดยะลาว่า มีผู้มีสิทธิเดินทางมาใช้สิทธิอย่างเนื่องแน่น ตั้งแต่เช้า โดยเฉพาะในเขตการเลือกตั้งที่ 2 ของจังหวัดยะลา ผู้มีสิทธิได้ทยอยออกมารอหน้าหน่วยเลือกตั้ง ก่อนที่ผู้อำนวยการประจำหน่วยเลือกตั้งประกาศเปิดการลงคะแนนเป็นทางการในเวลา 08.00 น. ทั้งนี้เนื่องมาจาก เกิดฝนตกลงมาตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมาจนถึงเปิดการลงคะแนนเรื่อยมา ทำให้ผู้มีสิทธิว่างเว้นจากการที่ต้องไปกรีดยางพารา ทำให้บรรยากาศคึกคักตั้งแต่เช้าดังกล่าว

แต่ประชาชนที่แห่กันออกมาใช้สิทธิ กลับต้องมาพบปัญหาการอำนวยการเลือกตั้งของ จนท.ประจำหน่วย เกี่ยวกับ การกาบัตรลงคะแนนในคูหา เพราะว่ากตต.จังหวัดยะลาได้กำหนดให้ทุกหน่วยเลือกตั้ง มีคูหาสำหรับการกาบัตร เพียง 3 คูหา จึงไม่เพียงพอกับประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ ต้องเข้าแถวยาว เสียเวลารอการกาบัตร บางคนได้บ่นว่ามาใช้สิทธิในปีนี้ ต้องใช้เวลานานกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เอง ยังได้บ่นกับผู้สื่อข่าวว่า การแจกจ่ายอุปกรณ์สนับสนุนการเลือกตั้งประจำหน่วย ใช้ไม่พอกับการใช้งานจริง ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ต้องชักเงินเองเพื่อซื้ออุปกรณ์ในการดำเนินการเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติ ทำให้เกิดความสงสัยว่า ทาง กกต.ได้รับงบประมาณมาก แต่นำมาให้กาสนับสนุนการเลือกตั้งน้อยมาก

จากนั้น เมื่อเวลา 10.00 น. นายบุญไทย กาฬศิริ นายอำเภอรามัน พร้อมคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมและตรวจสอบความเรียบร้อยของหน่วยเลือกตั้งที่ 5 ต.อาซ่อง อ.รามัน พบว่ามีปัญหาคูหาน้อย ผู้มาใช้สิทธิ บ่นในการเสียเวลาข้าแถวกาบัตร จึงได้สั่งการปลัดป้องกันอำเภอรามัน นำคูหาของอำเภอมาสนับสนุนเพิ่มอีก 2 คูหา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้มาใช้สิทธิ

ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อย มีกำลัง ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง พร้อมอาวุธปืนยาวครบมือ ประจำการหน่วยละ 10 นาย โดยใช้กำลัง ชรบ.ประจำหมู่บ้าน จำนวน 5 นาย ประจำหน่วย ตรวจเข้มการเข้ามาของคนแปลกหน้าที่จะเข้ามาเขตหน่วยเลือกตั้ง ส่วนตามเส้นทางหลักและรอง ภายในหมู่บ้าน กำลัง ตำรวจ ชุดเคลื่อนที่เร็วออกลาดตระเวนตลอดเส้นทาง

ในพื้นที่เขตป่าเขา หน่วยกำลังทหารบูรณาการระหว่างทหารเขียวกับทหารพราน ออกลาดตระเวนเพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่จะออกมาก่อกวนบรรยากาศการเลือกตั้ง และการก่อเหตุร้ายกับ จนท.ที่ดูแลความสงบเรียบร้อยประจำหน่วยอีกด้วย