ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ประกอบการรถตู้ท่องเที่ยว และรถตู้โดยสารระหว่างประเทศไทย-มาเลเซีย เดือดร้อนหนัก ถูกเจ้าหน้าที่ขนส่งมาเลเซียจับกุมและปรับคันละ 6,000 บาท ฐานบรรทุกผู้โดยสารและนักเที่ยวเข้าประเทศ เรียกร้อง “ศอ.บต.” และทางจังหวัดเร่งประสานมาเลเซียเพื่อผ่อนปรน และปฏิบัติเหมือนกับรถมาเลเซียที่สามารถบรรทุกผู้โดยสารเข้าไทยโดยไม่ถูกจับกุม
วันนี้ (30 มิ.ย.) เวลา 16.30 น.กลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ท่องเที่ยว และรถตู้โดยสารระหว่างประเทศ ทย-มาเลเซีย ใน จ.สงขลา ได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ขนส่งของมาเลเซีย หรือหน่วย JPJ จับกุมอย่างไม่เป็นธรรม และปรับคันละ 6,000 บาท ฐานบรรทุกผู้โดยสารและนักเที่ยวเข้าประเทศ
นายฉลอง ไพโรจน์ ซึ่งเป็น 1 ในผู้ประกอบการรถตู้ท่องเที่ยวและรถตู้โดยสารใน จ.สงขลา กล่าวว่า ผู้ประกอบการรถตู้นำเที่ยวและรถตู้โดยสารระหว่างประเทศเส้นทางหาดใหญ่-มาเลเซีย ใน จ.สงขลา ที่มีอยู่กว่า 200 คัน กำลังประสบปัญหาและเดือดร้อน เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ขนส่งของมาเลเซีย หรือหน่วย JPJ จับกุม จับกุมปรับคันละ 300 เหรียญหรือราว 6,000 บาท ฐานบรรทุกนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารเข้าประเทศ แม้จะมีเอกสารต่างๆ ที่ทางการมาเลเซียกำหนดถูกต้อง โดยอ้างระเบียบว่านักท่องเที่ยว หรือผู้โดยสารที่จะเข้าไปยังมาเลเซียจะต้องใช้รถของมาเลเซียเท่านั้น ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานานหลายเดือน
นายฉลอง กล่าวว่า ต้องการเรียกร้องให้ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ขนส่งจังหวัด และเจ้าหน้าที่ประจำด่านชายแดนไทยมาเลเซีย ประสานไปยังหน่วยงานขนส่งของมาเลเซียหรือผู้ที่มีอำนาจเต็มในการตัดสินใจของทางการมาเลเซีย ผ่อนปรนการจับกุมรถตู้ไทยให้สามารถนำผู้โดยสารเข้าประเทศได้ เหมือนกับที่รถตู้และรถบัสนำเที่ยวของมาเลเซียสามารถเข้ามาในประเทศไทย และเดินทางไปในหลายจังหวัดของภาคใต้ โดยที่ไม่ถูกจับกุม เพื่อความยุติธรรมทั้งไทยและมาเลเซีย และสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ
นายฉลอง ยังเผยอีกว่า ขณะนี้ทางผู้ประกอบการรถตู้นำเที่ยวใน จ.สงขลา กำลังอยู่ระหว่างการหารือหากยังถูกทางการมาเลเซียจับกุมและทางการไทยยังไม่เจรจาหาแนวทางช่วยเหลือก็จะนัดรวมตัวปิดสถานีขนส่งหาดใหญ่ทันทีเหมือนอย่างที่เคยชุมนุมปิดด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย เมื่อปีที่ผ่านมาจากปัญหาเดียวกัน