ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านพรมแดนสะเดา ตรวจเข้มป้องกันการลักลอบขนน้ำมันปาล์มเถื่อนจากประเทศมาเลเซียเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ ขณะที่ประเทศมาเลเซียได้เพิ่มมาตรการลงโทษผู้ที่ลักลอบขนน้ำมันปาล์มออกนอกประเทศ โดยกำหนดโทษปรับกิโลกรัมละ 20,000 บาท
วันนี้ (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ยังคงตรวจเข้ม เพื่อป้องกันการลักลอบขนน้ำมันปาล์มเถื่อนจาก ประเทศมาเลเซีย เข้ามาจำหน่ายในพื้นที่เน้นการตรวจรถยนต์ โดยเฉพาะรถส่วนตัวทั้งของไทย และมาเลเซียที่ขาเข้ามายังฝั่งไทย เนื่องจากปริมาณความต้องการน้ำมันปาล์มยังสูง จากภาวะน้ำมันปาล์มของไทยขาดตลาด และมีราคาแพง ซึ่งกลุ่มนายทุนใหญ่พยายามลักลอบนำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม นายประยุทธ มณีโชติ ผู้อำนวยสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 เปิดเผยว่า สถานการณ์การลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศมาเลเซียลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มในมาเลเซียใกล้เคียงกับราคาในประเทศไทย และขาดแคลนเช่นกัน เนื่องจากมาเลเซียนำน้ำมันปาล์มไปผลิตเป็นไบโอดีเซลส่งจำหน่ายต่างประเทศ ทำให้ปริมาณความต้องการใช้ปาล์มน้ำมันมีมากขึ้น
นออกจากนี้ ทางการของประเทศมาเลเซียได้เพิ่มมาตรการลงโทษผู้ที่ลักลอบขนน้ำมันปาล์มออกนอกประเทศ โดยกำหนดโทษปรับกิโลกรัมละ 20,000 บาท ทำให้ปริมาณการลักลอบมีน้อยลง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยก็ดำเนินการตรวจค้นจับกุมอย่างเข็มงวดเช่นกัน
นอกจากจะคุมเข้มน้ำมันปาล์มแล้ว ได้สั่งการให้ด่านศุลกากรทุกจังหวัดที่อยู่ติดแนวพรมแดนไทยมาเลเซีย โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สงขลา และสตูล สกัดการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องอุปโภคบริโภค สุรา และไวน์ที่อาจจะมีการลักลอบนำเข้ามามากขึ้นในช่วงนี้ เพื่อเตรียมขายในช่วงเทศกาลตรุษจีน
วันนี้ (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ยังคงตรวจเข้ม เพื่อป้องกันการลักลอบขนน้ำมันปาล์มเถื่อนจาก ประเทศมาเลเซีย เข้ามาจำหน่ายในพื้นที่เน้นการตรวจรถยนต์ โดยเฉพาะรถส่วนตัวทั้งของไทย และมาเลเซียที่ขาเข้ามายังฝั่งไทย เนื่องจากปริมาณความต้องการน้ำมันปาล์มยังสูง จากภาวะน้ำมันปาล์มของไทยขาดตลาด และมีราคาแพง ซึ่งกลุ่มนายทุนใหญ่พยายามลักลอบนำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม นายประยุทธ มณีโชติ ผู้อำนวยสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 เปิดเผยว่า สถานการณ์การลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มจากประเทศมาเลเซียลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มในมาเลเซียใกล้เคียงกับราคาในประเทศไทย และขาดแคลนเช่นกัน เนื่องจากมาเลเซียนำน้ำมันปาล์มไปผลิตเป็นไบโอดีเซลส่งจำหน่ายต่างประเทศ ทำให้ปริมาณความต้องการใช้ปาล์มน้ำมันมีมากขึ้น
นออกจากนี้ ทางการของประเทศมาเลเซียได้เพิ่มมาตรการลงโทษผู้ที่ลักลอบขนน้ำมันปาล์มออกนอกประเทศ โดยกำหนดโทษปรับกิโลกรัมละ 20,000 บาท ทำให้ปริมาณการลักลอบมีน้อยลง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยก็ดำเนินการตรวจค้นจับกุมอย่างเข็มงวดเช่นกัน
นอกจากจะคุมเข้มน้ำมันปาล์มแล้ว ได้สั่งการให้ด่านศุลกากรทุกจังหวัดที่อยู่ติดแนวพรมแดนไทยมาเลเซีย โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สงขลา และสตูล สกัดการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องอุปโภคบริโภค สุรา และไวน์ที่อาจจะมีการลักลอบนำเข้ามามากขึ้นในช่วงนี้ เพื่อเตรียมขายในช่วงเทศกาลตรุษจีน
