ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ลงภูเก็ต ตามความคืบหน้าจับกุมคนร้ายชิงทองหนัก 261 บาท จากร้านทองกลางเมืองภูเก็ต ระบุก่อนเหตุเหตุคนร้ายขับรถมาดูลาดเลากว่า 10 ครั้ง ขณะที่ผลการติดตามจับกุมคนร้ายยังลอยนวล
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เข้าร่วมประชุมกับพล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.โกมล วัตรากรณ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.โชติ ชิตชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต และผู้ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ใช้อาวุธปืนปลอมปล้นร้านทองธเนศ 2 ตั้งอยู่เลขที่ 28 ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้ทองรูปพรรณน้ำหนักประมาณ 3-5 บาท จำนวนรวม 261 บาท มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท
พล.ต.ท.ก่อเกียรติ กล่าวว่า สำหรับการติดตามจับกุมคนร้ายคดีชิงทองที่ก่อคดีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 ไม่ได้ละเลยกับคดีที่เกิดขึ้น โดยได้มีการประชุมร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตผ่านทางวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ มาตั้งแต่วันเกิดเหตุ พร้อมกับจัดชุดเจ้าหน้าที่สืบสวนภาค 8 ร่วมติดตามสืบหาตัวคนร้ายตามที่มีการระบุแหล่งที่พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นที่ จ.สุราษฎร์ธานีหรือ จ.ชุมพร
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพียงชื่อเล่นของคนร้ายเท่านั้น ดังนั้น คงต้องอาศัยการชี้เบาะแสจากพี่น้องประชาชน โดยเจ้าของร้านได้ประกาศให้รางวัลหากสามารถจับกุมคนร้ายได้เป็นเงินจำนวน 200,000 บาท และหากได้ทองรูปพรรณกลับมาด้วยก็จะมีการให้เปอร์เซ็นต์อีกส่วนหนึ่งด้วย
หากผู้ใดพบเห็นคนร้ายที่มีตำหนิตามที่ได้เผยแพร่ตามสื่อต่างๆ สามารถแจ้งได้ที่ พ.ต.อ. โชติ ชิดชัย ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต หมายเลขโทรศัพท์ 081-9702523 หรือ พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต หมายเลขโทรศัพท์ 081-6773671 หรือหมายเลขโทรศัพท์ของตน 081-9780099
“ยืนยันว่า ตำรวจภาค 8 ไม่ได้ละเลยในเรื่องนี้มีการติดต่อประสานกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตอย่างใกล้ชิด”
ด้าน พ.ต.อ.โชติ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตร่วมกับตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ตั้งชุดออกติดตามคนร้าย 2 ชุดหลัก คือ ชุดสืบสวนของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ทำการสืบสวนพยานหลักฐานต่างๆ ในส่วนของที่พัก กับชุดสืบสวนของตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ทำการสืบสวนบริเวณจุดเกิดเหตุและที่มีการทิ้งรถไว้
จากการสืบสวนพบว่า รถที่คนร้ายใช้นั้นอยู่ในพื้นที่ป่าตอง ได้ไปสอบถามผู้ให้ยืมรถทราบว่าคนร้ายชื่อ เอก แต่ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง มาจาก จ.สุราษฎร์ธานี โดยก่อนที่จะเกิดเหตุได้เคยเข้ามาพักที่เกสต์เฮาส์แล้ว 2 ครั้งๆ ละ ประมาณ 3-4 วัน ในครั้งนี้มาพักได้เพียง 1 วันแล้วก่อเหตุ
นอกจากนี้ ยังมีการติดตามความเคลื่อนไหวของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้าน พบว่าก่อนเกิดเหตุนั้นได้ขับรถจักรยายนต์มาวนดูก่อนแล้วประมาณ 10 ครั้ง และได้มีการตรวจสอบเส้นทางการใช้รถของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมด้วย โดยขณะนี้ได้มีการส่งลายนิ้วมือแฝงไปทำการตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐาน อยู่ระหว่างรอผล ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการออกหมายจับไปเรียบร้อยแล้ว