ตร.นครศรีฯบุกทลายคลังแสงยึดอาวุธสงครามอื้อ

นครศรีธรรมราช - ผบช.ภ.8 ปล่อยแถว ตร.นครศรีธรรมราชกวาดล้างอาชญากรรม ตร.สืบสวนนครศรีฯโชว์ผลงานทลายคลังแสงยึดอาวุธสงครามอื้อ ตลึงเอ็ม 16 ติดเลเซอร์ เอ็ม79 ไรเฟิลสังหารกระสุนอีกเพียบ หลังได้กลิ่นรับงานสังหารก่อเหตุมั่วช่วงเลือกตั้ง

วันนี้ (4 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบช.ภ.8 ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อทำการปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมที่บริเวณหน้าตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายธระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ก่อนการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร โดยมีกำลังตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังอาสาสมัครตำรวจอาสา กำลัง อปพร. รวมกว่า 500 นาย สนธิกำลังในการออกกวาดล้างอาชญากรรมในครั้งนี้

พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยว่า เนื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบันมีการแข่งขันของผู้สมัครรับเลือกตั้งสูงมาก และอาจมีการประทุษร้ายต่อชีวิตและร่างกายกัน โดยใช้อาวุธปืนเกิดขึ้นสูงมาก ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมประชุมในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางและมาตรการเชิงรุกในการป้องกันปราบปราม อาชญากรรม โดยได้สนธิกำลังร่วมมือร่วมใจกันทุกภาคส่วน ในการร่วมกันระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงก่อนการเลือกตั้ง พ.ศ.2554 ที่จะถึงนี้ การระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนการเลือกตั้งในครั้งนี้ จะเน้นความผิดเกี่ยวกับ อาวุธปืน ยาเสพติด การพนัน อาชญากรรม การโจรกรรมรถ สถานบันเทิง รวมทั้งอบายมุขต่างๆ การตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามแผนป้องกันปราบปราม ปิดล้อมตรวจค้น หาข่าวที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทุกประเภท นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกนายวางตัวเป็นกลางทางการเมือง และห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความผิดใดๆ ทั้งสิ้นที่เกี่ยวข้องกับการเมือง

หลังจากนั้นติดตามสอบสวนผู้ต้องหาในคดีอาวุธสงครามด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นผลการตรวจยึดของตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ซึ่งมีทั้งเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 พร้อมลูกระเบิดเอ็ม 79 อาวุธปืนยาวไรเฟิลสังหารชนิด .375 พร้อมเครื่องเล็ง 2 กระบอก อาวุธปืนยาวเอ็ม 16 ติดระบบเล็งด้วยเลเซอร์ เครื่องวัดระยะด้วยเลเซอร์ หมวกไหมพรม วิกผมอำพรางตัว เครื่องกระสุนชนิดต่างๆ นับร้อยนัด โดยมีผู้ต้องหา 2 รายคือนายเฉลิม หรือหมึกอินทรชิต อายุ 25 ปี อยู่ 18 ม.3 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และนายธนิต ธานินทร์พงศ์ หรือน้อง อายุ 22 ปี อยู่ 141 ม.10 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ในการสืบสวนจับกุมของเจ้าหน้าที่สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 3 มิ.ย.54 พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีการซ่องสุมอาวุธสงครามร้ายแรงที่บ้านเลขที่ 18 ม.3 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา โดยเป็นบ้านของเป้าหมายที่ถูกสืบสวนติดตามพฤติกรรมในการเป็นมือปืนรับจ้างรวมทั้งขบวนการค่ายาเสพติด หลังจากนั้นจึงมอบหมายให้ ร.ต.ท.นราธิป นาคแก้ว รอง สว.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าทำการปิดล้อมและเข้าตรวจค้นตามเป้าหมายทันที

ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการปิดล้อมพบผู้ต้องหาทั้งสองรายกำลังซ่อมรถจักรยานยนต์จำนวนนับสิบคันที่กองรวมอยู่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่พยายามที่จะวิ่งหนี้แต่สามารถควบคุมตัวไว้ และเมื่อตรวจค้นภายในบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับตะลึงเมื่อพบคลังแสงขนาดย่อมๆ ล้วนแต่เป็นอาวุธสงครามร้ายแรงซึ่งมีทั้งเครื่องยิงเอ็ม 79 พร้อมลูกระเบิดอีก 3 ลูกพร้อมใช้งาน อาวุธปืนยาวไรเฟิลสังหารชนิด .375 รวม 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนนับสิบนัด อาวุธปืนยาวเอ็ม 16 ติดระบบเล็งด้วยเลเซอร์ เครื่องเล็งวัดระยะการยิง หมวกไหมพรม วิกผม อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เครื่องชั่งยาเสพติดพร้อมถุงบรรจุยาไอซ์อีกจำนวนมาก

พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบช.ภ.8 กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้ติดตามผู้ต้องหากลุ่มนี้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว จนแน่ใจว่ามีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและมีการซุกซ่อนอาวุธสงครามร้ายแรงไว้ในบ้านจึงทำการตรวจค้น ปรากฏว่าได้ของกลางจำนวนมากพร้อมด้วยรถจักรยานยนต์อีกนับสิบคันซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้มาจากการโจรกรรมหรือไม่

แหล่งข่าวในชุดสืบสวนรายหนึ่งเปิดเผยว่า อาวุธสงครามชุดนี้จากการสืบสวนพบว่ามีความเกี่ยวโยงกับการสังหารนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งมาแล้ว และในครั้งนี้มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ว่าจะมีการนำไปก่อคดีสังหารผู้กว้างขวางรายหนึ่งในช่วงการเลือกตั้ง โดยเบี่ยงเบนว่าเกี่ยวข้องกับหัวคะแนนทางการเมือง อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่มีเป้าหมายรายหนึ่งที่หลุดรอดออกจากบ้านไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นไม่ถึง 10 นาที ซึ่งคาดว่าจะสามารถขยายผลได้มากกว่านี้ แหล่งข่าวรายนี้กล่าว.