ปัตตานี - ชุดปฏิบัติการพิเศษ กอ.รมน.ภ.4 สน.ประสานกำลัง ตร.บุกตรวจค้นเรือและรถบรรทุกน้ำมัน สงสัยผิดกฎหมาย ในขณะที่สถิติการจับน้ำมันเถื่อน โครงข่ายเส้นเลือดใหญ่กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (16 มิ.ย.) ชุดปฏิบัติการพิเศษ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ปัตตานี และชุดตำรวจน้ำกว่า 30 นาย ได้เข้าตรวจสอบเรือประมง ชื่อโมรีวิเชียร ที่ดัดแปลงเป็นเรือขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงความจุขนาด 120,000 ลิตร และรถบรรทุกน้ำมันของ บริษัท เจตธนาธิปปิโตรเลี่ยม จก.จำนวน 2 คัน ซึ่งคนงานกำลังทำการขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล ภายในท่าเทียบเรือร้างขององค์การบริหารส่วน จ.ปัตตานี
หลังการเข้าตรวจสอบได้มี นายจักริษ จันทร์เพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจตธนาธิป ปิโตรเลี่ยม จก. แสดงตัวเป็นผู้รับผิดชอบ โดยอ้างว่าทางบริษัทได้รับการว่าจ้างให้ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลจากประเทศมาเลเซียเพื่อส่งต่อไปยังลูกค้าที่ประเทศพม่า ซึ่งจากปัญหาการขนส่งด้วยเรือบรรทุกน้ำมันจากประเทศมาเลเซียนั้น ต้องเดินทางอ้อมไกล จึงตัดสินใจใช้เรือขนถ่ายน้ำมันจากกลางทะเลเข้ามาทางปากอ่าวปัตตานี จากนั้นก็ใช้รถบรรทุกน้ำมันขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงต่อทางถนนไปยัง จ.ระนอง ก่อนจะเดินทางต่อเข้ายังประเทศพม่า เพื่อต้องการลดระยะเวลาการเดินทางให้สั้นลง อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายการขนส่งทางเรืออีกด้วย
จากการตรวจสอบพบมีใบอนุญาตถ่ายลำ ออกโดยกรมศุลกากร และมีการแจ้งเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรปัตตานีให้รับทราบก่อนแล้ว จากนั้นทางชุดปฏิบัติการพิเศษฯ จึงได้ขอตัวอย่างน้ำมันเชื้อเพลิงไปตรวจสอบคุณภาพ เพื่อป้องกันการสวมสิทธ์เอกสาร
ในขณะที่แหล่งข่าวในชุดปฏิบัติการพิเศษ เปิดเผยว่า ผบ.ทบ.ได้มีดำริให้แม่ทัพภาค 4 จัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษ เพื่อออกตรวจจับกุม บุคคล สิ่งของหลบหนีภาษี ทั่วทั้งพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เนื่องจากเหตุความรุนแรงที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีส่วนเกื้อหนุนและเป็นอีกส่วนท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ นอกเหนือจากยาเสพติด ซึ่งจะคอยทำหน้าที่ในการสนับสนุนเงินทุนให้กลุ่มก่อความไม่สงบ สร้างสถานการณ์ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
สถิติการกวาดล้างจับกุมที่ผ่านมาเพียงไม่กี่เดือน สามารถยึดน้ำมันเชื้อเพลิงเถื่อนในพื้นที่ได้แล้วกว่า 5 แสนลิตร และยังพบว่าช่วงหลังมานี้กลุ่มผู้กระทำผิดมีการปรับเปลี่ยนดัดแปลงใช้เรือประมงในการขนถ่ายทางทะเลด้าน จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส เนื่องจากไม่เอื้อต่อการถูกสงสัย ติดตาม และยังสามารถช่วยอำพรางร่วมมากับเรือประมงปกติตามท่าเทียบเรือ ที่มีการเข้าออกในแต่ละวันจำนวนหลายร้อยลำอีกด้วย