ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับจันทบุรี จัดงาน “ผลไม้ไทย ผลไม้ดีมีที่ตะวันออก สู่ ภูเก็ต” 17-19 มิ.ย.นี้ ที่ลานสะพานหิน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้คนรับประทานผลไม้ไทยมากขึ้น แก้ปัญหาราคาตกต่ำ
นายวินัย ขวัญแก้ว เกษตรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับจังหวัดจันทบุรี ดำเนินงานโครงการป้องกันแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคตะวันออก ปี 2554 เพื่อประชาสัมพันธ์ให้คนไทย ชาวต่างชาติ สนใจผลไม้ไทยและส่งเสริมการขายให้กับเกษตรกร เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตในภาพรวมด้วย จึงได้กำหนดจัดงาน “ผลไม้ไทย ผลไม้ดีมีที่ตะวันออก สู่ ภูเก็ต” ในระหว่างวันที่ 17-19 มิถุนายนนี้ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
โดยจะมีการนำผลไม้ชนิดต่างๆ จากจังหวัดภาคตะวันออก มาจำหน่าย เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง เป็นต้น รวมวันละประมาณ 10 ตัน นอกจากนี้ ยังมีสินค้าจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดภูเก็ต สินค้าเกษตรปลอดภัย และอาหารพื้นเมือง รวมทั้งการประกวด/แข่งขัน และการแสดงต่างๆ ตลอดงาน คาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานทั้งคนไทยและต่างชาติไม่ต่ำกว่า 1,500 คน
“ภาคตะวันออกเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่สำคัญของประเทศไทย ผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ทุเรียน เงาะ มังคุด และ ลองกอง โดยจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญ ได้แก่ จันทบุรี ตราด และ ระยอง มีการจำหน่ายทั้งภายในประเทศและส่งออก นำรายได้สู่ประเทศไทยมากกว่าหมื่นล้านบาทต่อปี โดยผลผลิตจะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงสิงหาคมของแต่ละปี ซึ่งจะมีช่วงเวลาที่ผลผลิตออกพร้อมกัน หรือช่วงผลไม้กระจุกตัว ประมาณ 20-30 วัน ทำให้ผลผลิตมีมากเกินความต้องการของผู้บริโภค และเกินกำลังของกลไกตลาดปกติที่จะรองรับได้ ทำให้เกิดปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำเกือบทุกปี ซึ่งในปี 2554
คาดว่า จะมีผลผลิต ผลไม้ทั้ง 4 ชนิด รวมทั้งสิ้น 758,857 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งมีผลผลิตรวม 732,715 ตัน ร้อยละ 3.44 แบ่งเป็น ทุเรียน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 6.40 มังคุด ลดลงจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 11.56 เงาะ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 8.08 และลองกอง เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 3.40”
นายวินัย กล่าวว่า แนวโน้มผลผลิตในปี 2554 เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย และผลไม้หลายชนิดออกสู่ตลาดมากในช่วงเวลาเดียวกัน ประกอบปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น ค่าครองชีพสูง เศรษฐกิจโลกตกต่ำอาจส่งผลกระทบต่อการตลาดและราคาผลไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ผลไม้ออกพร้อมๆ กัน หรือช่วงผลไม้กระจุกตัว อาจเกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการผลผลิตผลไม้ให้กระจายสู่ตลาดต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว
ซึ่งการจัดงาน “ผลไม้ไทย ผลไม้ดีมีที่ตะวันออก สู่ภูเก็ต” เป็นแนวทางหนึ่งในการที่จะกระจายผลผลิตออกจากแหล่งผลิตในช่วงผลผลิตกระจุกตัวแล้ว ยังจะเป็นการเพิ่มตลาดในการจำหน่ายผลผลิตให้กับเกษตรกร เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตได้อีกทางหนึ่งด้วย
นายวินัย ขวัญแก้ว เกษตรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับจังหวัดจันทบุรี ดำเนินงานโครงการป้องกันแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคตะวันออก ปี 2554 เพื่อประชาสัมพันธ์ให้คนไทย ชาวต่างชาติ สนใจผลไม้ไทยและส่งเสริมการขายให้กับเกษตรกร เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตในภาพรวมด้วย จึงได้กำหนดจัดงาน “ผลไม้ไทย ผลไม้ดีมีที่ตะวันออก สู่ ภูเก็ต” ในระหว่างวันที่ 17-19 มิถุนายนนี้ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
โดยจะมีการนำผลไม้ชนิดต่างๆ จากจังหวัดภาคตะวันออก มาจำหน่าย เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง เป็นต้น รวมวันละประมาณ 10 ตัน นอกจากนี้ ยังมีสินค้าจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดภูเก็ต สินค้าเกษตรปลอดภัย และอาหารพื้นเมือง รวมทั้งการประกวด/แข่งขัน และการแสดงต่างๆ ตลอดงาน คาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานทั้งคนไทยและต่างชาติไม่ต่ำกว่า 1,500 คน
“ภาคตะวันออกเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่สำคัญของประเทศไทย ผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ทุเรียน เงาะ มังคุด และ ลองกอง โดยจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญ ได้แก่ จันทบุรี ตราด และ ระยอง มีการจำหน่ายทั้งภายในประเทศและส่งออก นำรายได้สู่ประเทศไทยมากกว่าหมื่นล้านบาทต่อปี โดยผลผลิตจะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงสิงหาคมของแต่ละปี ซึ่งจะมีช่วงเวลาที่ผลผลิตออกพร้อมกัน หรือช่วงผลไม้กระจุกตัว ประมาณ 20-30 วัน ทำให้ผลผลิตมีมากเกินความต้องการของผู้บริโภค และเกินกำลังของกลไกตลาดปกติที่จะรองรับได้ ทำให้เกิดปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำเกือบทุกปี ซึ่งในปี 2554
คาดว่า จะมีผลผลิต ผลไม้ทั้ง 4 ชนิด รวมทั้งสิ้น 758,857 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งมีผลผลิตรวม 732,715 ตัน ร้อยละ 3.44 แบ่งเป็น ทุเรียน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 6.40 มังคุด ลดลงจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 11.56 เงาะ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 8.08 และลองกอง เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 3.40”
นายวินัย กล่าวว่า แนวโน้มผลผลิตในปี 2554 เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย และผลไม้หลายชนิดออกสู่ตลาดมากในช่วงเวลาเดียวกัน ประกอบปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น ค่าครองชีพสูง เศรษฐกิจโลกตกต่ำอาจส่งผลกระทบต่อการตลาดและราคาผลไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ผลไม้ออกพร้อมๆ กัน หรือช่วงผลไม้กระจุกตัว อาจเกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการผลผลิตผลไม้ให้กระจายสู่ตลาดต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว
ซึ่งการจัดงาน “ผลไม้ไทย ผลไม้ดีมีที่ตะวันออก สู่ภูเก็ต” เป็นแนวทางหนึ่งในการที่จะกระจายผลผลิตออกจากแหล่งผลิตในช่วงผลผลิตกระจุกตัวแล้ว ยังจะเป็นการเพิ่มตลาดในการจำหน่ายผลผลิตให้กับเกษตรกร เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตได้อีกทางหนึ่งด้วย