ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พรรคภูมิใจไทยภูเก็ตเเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมหลังยื่นหนังสือต่อกกต.ให้ตรวจสอบผู้สมัครส.ส.พรรคปชป. ร่วมกระทำการฝ่าฝืนกฏหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
วันนี้ (10 มิ.ย.54) นายจิรายุส ทรงยศ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส) ภูเก็ต เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ได้ให้ปากคำเพิ่มเติม กับ นายสัญญา แก้วอนันต์ หัวหน้างานสืบสวน กกต.ภูเก็ต และ พ.ต.ท.ยงยุทธ กรองมาลัย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นคณะกรรรมการสืบสวนสอบสวนที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดภูเก็ต เกี่ยวกับกรณีที่ได้ยื่นหนังสือต่อ กกต.ภูเก็ต ให้ตรวจสอบผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 และเขตเลือกตั้งที่ 2 รวมถึงผู้อำนวยการศูนย์การเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสองเขตเลือกตั้งว่า ร่วมกันกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ด้วยการติดแผ่นป้ายโฆษณาหาเสียงที่มีรูปบุคคลทั้ง 2 พร้อมรูปแสดงผลงานตลอดจนหมายเลขประจำตัวผู้สมัครหมายเลข10ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2
นายจิรายุส ภายหลังเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับคณะกรรรมการสืบสวนสอบสวนฯ ว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงในเขตเลือกตั้งที่ 2 พบว่ามีประชาชนการสอบถามกรณีการติดตั้งป้ายหาเสียงของผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 2 แต่กลับมีป้ายคู่กับผู้สมัครพรรคเดียวกันที่ลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 1 และบางครั้งก็มีการลงไปหาเสียงคู่กันด้วย นอกจากนี้ยังพบเห็นด้วยตัวเองด้วย จึงก่อให้เกิดความสับสน และต้องการให้ทาง กกต.พิจารณาในเรื่องนี้ว่าเป็นการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
นายจิรายุส กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงว่า ขณะนี้ทำไปได้ประมาณ 30% แล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับดี เนื่องจากตนเป็นคนในพื้นที่ อ.ถลาง อยู่แล้ว คนส่วนใหญ่จะรู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งในกลุ่มของญาติและเพื่อนฝูง จึงมีความมั่นใจสูง แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าฐานคะแนนเดิมของพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ซึ่งมีค่อนข้างน้อย จึงจำเป็นที่จะต้องเน้นการหาเสียงด้วยการเคาะประตูบ้าน และโดยส่วนตัวแล้วจะไม่โจมตีใคร
แต่จะนำเสนอนโยบายให้กับประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ ซึ่งนโยบายที่ยังคงได้รับการตอบรับที่ดี ยังคงเป็นเรื่องของกองทุนท่องเที่ยวสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดละ 100 ล้านบาท เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดภูเก็ตโดยตรง รวมถึงเรื่องของการมีงานทำ เรื่องการส่งเสริมด้านการกีฬา เรื่องของทำดีมีรางวัลเป็นต้น และหากตนได้รับเลือกเข้าไปแล้วก็เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างแน่นอน
วันนี้ (10 มิ.ย.54) นายจิรายุส ทรงยศ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส) ภูเก็ต เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ได้ให้ปากคำเพิ่มเติม กับ นายสัญญา แก้วอนันต์ หัวหน้างานสืบสวน กกต.ภูเก็ต และ พ.ต.ท.ยงยุทธ กรองมาลัย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นคณะกรรรมการสืบสวนสอบสวนที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดภูเก็ต เกี่ยวกับกรณีที่ได้ยื่นหนังสือต่อ กกต.ภูเก็ต ให้ตรวจสอบผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 และเขตเลือกตั้งที่ 2 รวมถึงผู้อำนวยการศูนย์การเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสองเขตเลือกตั้งว่า ร่วมกันกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ด้วยการติดแผ่นป้ายโฆษณาหาเสียงที่มีรูปบุคคลทั้ง 2 พร้อมรูปแสดงผลงานตลอดจนหมายเลขประจำตัวผู้สมัครหมายเลข10ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2
นายจิรายุส ภายหลังเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับคณะกรรรมการสืบสวนสอบสวนฯ ว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงในเขตเลือกตั้งที่ 2 พบว่ามีประชาชนการสอบถามกรณีการติดตั้งป้ายหาเสียงของผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 2 แต่กลับมีป้ายคู่กับผู้สมัครพรรคเดียวกันที่ลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 1 และบางครั้งก็มีการลงไปหาเสียงคู่กันด้วย นอกจากนี้ยังพบเห็นด้วยตัวเองด้วย จึงก่อให้เกิดความสับสน และต้องการให้ทาง กกต.พิจารณาในเรื่องนี้ว่าเป็นการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
นายจิรายุส กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงว่า ขณะนี้ทำไปได้ประมาณ 30% แล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับดี เนื่องจากตนเป็นคนในพื้นที่ อ.ถลาง อยู่แล้ว คนส่วนใหญ่จะรู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งในกลุ่มของญาติและเพื่อนฝูง จึงมีความมั่นใจสูง แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าฐานคะแนนเดิมของพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ซึ่งมีค่อนข้างน้อย จึงจำเป็นที่จะต้องเน้นการหาเสียงด้วยการเคาะประตูบ้าน และโดยส่วนตัวแล้วจะไม่โจมตีใคร
แต่จะนำเสนอนโยบายให้กับประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ ซึ่งนโยบายที่ยังคงได้รับการตอบรับที่ดี ยังคงเป็นเรื่องของกองทุนท่องเที่ยวสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดละ 100 ล้านบาท เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดภูเก็ตโดยตรง รวมถึงเรื่องของการมีงานทำ เรื่องการส่งเสริมด้านการกีฬา เรื่องของทำดีมีรางวัลเป็นต้น และหากตนได้รับเลือกเข้าไปแล้วก็เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างแน่นอน