ยะลา - ศูนย์ป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถ (ศปจร.ศชต.) ตรวจยึดรถยนต์เถื่อน ซึ่งเป็นผลการทำงานของ สภ.ต่างๆ ใน 3 จชต.ในห้วงเดือน มี.ค.-มิ.ย.ได้กว่า 30 คัน เพื่อป้องกันนำไปก่อเหตุคาร์บอมบ์ป่วนใต้ โดยในจำนวนนั้นมีการดัดแปลงและเตรียมพร้อมสำหรับบรรจุระเบิดแล้ว
วันนี้ (9 มิ.ย.) เวลา 11.00 น.ที่หน้าอาคารศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ.สุขยางค์ อ.เมืองยะลา พล.ต.ต.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดแถลงข่าว การจับกุมตรวจยึดรถยนต์เถื่อน และรถยนต์ผิดกฎหมาย หลังจากที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร.(ปป.4) ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพิ่มความเข้มข้นป้องกันรถผิดกฎหมาย ที่อาจเกี่ยวข้องกับการนำไปก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์รถจักรยานยนต์ขึ้น
โดยมี พล.ต.ต.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการ ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.สส.และ พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ฯ มีกำลัง 2 ชุดปฏิบัติการโดยการนำของ พ.ต.อ.อุทัย กวินเดชาธร ผกก.ฝอ.10 และ พ.ต.ท.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ รอง ผกก.สส.ศชต.เป็นหัวหน้าชุด
ผลการระดมกวาดล้างจับกุมรถยนต์ในห้วงเดือน มี.ค.- มิ.ย.54 สามารถตรวจยึดรถยนต์ที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหรือติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมรวม 3 คัน รถนำเข้าจากประเทศมาเลเซียโดยไม่ถูกต้อง (หลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร) จำนวน 23 คัน รถโจรกรรมมาจากที่อื่น 2 คันและ รถยนต์หลบหนีไฟแนนซ์ 3 คัน
จับกุมในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองยะลา, สภ.เบตง, สภ.อัยเยอร์เวง, สภ.โกตาบารู, สภ.เมืองปัตตานี และ สภ.สายบุรี รวมทั้งสิ้น 31 คัน มากที่สุด คือ รถยนต์ยี่ห้อ Perdua รุ่น Kancil ซึ่งผลิตในประเทศมาเลเซีย รวม 14 คัน Honda รุ่น Jazz, Accord และ Civic จำนวน 7 คัน ยี่ห้อ Proton จำนวน 4 คัน นอกนั้น เป็นยี่ห้อ Isuzu, Masda, Toyota, Benz และ Misubishi อย่างละคัน
ทั้งนี้ เป็นมาตรการเข้มที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้พยายามทุกวิถีทาง ที่จะสกัดกั้นมิให้กลุ่มผู้ก่อความรุนแรงนำรถยนต์ไปใช้ก่อเหตุ เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมาได้ใช้รถยนต์ก่อเหตุ สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แก่ประชาชน และเจ้าหน้าที่หลายจำนวนหลายครั้ง
พล.ต.ต.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบช.ศชต.กล่าวว่า จากการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ และจักรยานยนต์นั้น ทาง ศชต.สันนิษฐานว่า รถที่นำไปประกอบระเบิดในพื้นที่มีที่มา 3 ทาง ด้วยกัน คือ รถที่ลักทรัพย์มา รถที่หนีไฟแนนซ์ เป็นรถที่เช่าซื้อแล้วเปลี่ยนมือมาเรื่อยๆ และรถที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่ง ศชต.ได้จัดกำลังติดตามค้นหารถในลักษณะดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว พบว่ารถดังกล่าวมีการปลอมแปลงทั้งแผ่นป้ายทะเบียน หมายเลขตัวถัง และเปลี่ยนสีรถ เพื่อส่งให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุเพื่อไปประกอบระเบิดนำมาวางในเขตเมืองต่างๆ
จากผลการปฏิบัติสามารถจับกุมมาได้จำนวน 31 คัน มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีอยู่ 4-5 คัน มีการปรับเปลี่ยนสภาพ พร้อมนำไปประกอบระเบิดอยู่ด้วยอยากฝากเตือนประชาชนอย่าซื้อรถหนีไฟแนนซ์ รถจำนำ หรือรถที่ไม่มั่นใจว่า จะมีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ถูกต้อง เพราะอาจมีความผิดตามกฎหมาย หากสงสัยให้สอบถามเจ้าฝ่ายรัฐ หรือโทรสอบถาม ศปจร.ศชต.ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 073-203690 และ 073-220200
