นราธิวาส - เผยกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค 3 ศพที่สังเวยเหตุเทือกปะทะเขาบูโด อ.บาเจาะ พบทั้ง 3 เป็นระดับครูฝึกและมือประกอบระเบิดที่มีความเชี่ยวชาญ ก่อคดีความรุนแรงหลายคดี
ความคืบหน้าจากเหตุเจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน ภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส และชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 อ.บาเจาะ ซึ่งได้สนธิกำลัง 8 นาย ดักซุ่มบนเทือกเขาบูโด ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่าง บ.ปูลา-รามัน กับ บ.บาดง อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และ อ.รามัน จ.ยะลา ก่อนที่จะเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดกับกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค จำนวน 5 คน ที่หลบหนีการจับกุม ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 3 ราย และเจ้าหน้าที่บุกทลายค่ายพักพร้อมยึดของกลางกว่า 100 รายการ เมื่อวานที่ผ่านมา (2 มิ.ย.) นั้น
ล่าสุดจากการตรวจสอบศพอย่างละเอียด โดยมีการเปรียบเทียบกับแฟ้มประวัติคดีความมั่นคงในพื้นที่ พบว่าทั้ง 3 ศพ ประกอบด้วย 1.นายรอยะ กลามอ อยู่บ้านเลขที่ 492 ม.5 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งทำหน้าที่เป็นครูฝึกกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค ที่ผ่านการฝึกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 รุ่น 2.นายลุคฟี ตาเยะ แกนนำระดับปฏิบัติการ ซึ่งทำหน้าที่ประกอบวัตถุระเบิดที่มีความเชี่ยวชาญ เคยก่อเหตุวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู หมวดปืนเล็กที่ 2 ฉก.นราธิวาส 32 มาแล้วหลายครั้งในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา และ 3.นายฮาเร๊ะ เจ๊ะมุ แกนนำระดับปฏิบัติการ ซึ่งทำหน้าที่เป็นครูฝึกกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค รวมทั้งทำหน้าที่จัดหาอุปกรณ์เพื่อนำมาใช้ในการฝึกแบบกองโจร อีกทั้งยังเป็นมือประกอบระเบิดชนิดแสวงเครื่องที่มีความเชี่ยวชาญอีกด้วย
ส่วนของกลางที่ตรวจยึดได้ อาทิ ระเบิดชนิดขว้าง 1 ลูก ระเบิดแบบเท้าเหยียบ 1 ลูก รวมทั้งเป้สนาม 3 ใบที่ภายในบรรจุเสบียงอาหาร ชุดลายพรางทหาร และแผนที่ตั้งของฐานทหารและสถานียุทธศาสตร์ในหลายอำเภอ รวมทั้งอาวุธปืน 3 กระบอกได้แก่ ปืนเอ็ม 16 ชนิดยาว 1 กระบอก ที่ตรวจสอบพบหมายเลขประจำปืนคือ 9291265 ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าเป็นปืนของเจ้าหน้าที่สังกัดใดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะที่อีก 2 กระบอกคือปืนเอ็ม 16 ชนิดสั้นและปืนพกสั้นขนาด .357 เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยจะได้มีการตรวจคราบลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอว่ากลุ่มอาร์เคเคเคยนำไปใช้ก่อเหตุที่ใดมาบ้าง
ความคืบหน้าจากเหตุเจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน ภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส และชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 อ.บาเจาะ ซึ่งได้สนธิกำลัง 8 นาย ดักซุ่มบนเทือกเขาบูโด ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่าง บ.ปูลา-รามัน กับ บ.บาดง อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และ อ.รามัน จ.ยะลา ก่อนที่จะเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดกับกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค จำนวน 5 คน ที่หลบหนีการจับกุม ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 3 ราย และเจ้าหน้าที่บุกทลายค่ายพักพร้อมยึดของกลางกว่า 100 รายการ เมื่อวานที่ผ่านมา (2 มิ.ย.) นั้น
ล่าสุดจากการตรวจสอบศพอย่างละเอียด โดยมีการเปรียบเทียบกับแฟ้มประวัติคดีความมั่นคงในพื้นที่ พบว่าทั้ง 3 ศพ ประกอบด้วย 1.นายรอยะ กลามอ อยู่บ้านเลขที่ 492 ม.5 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งทำหน้าที่เป็นครูฝึกกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค ที่ผ่านการฝึกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 รุ่น 2.นายลุคฟี ตาเยะ แกนนำระดับปฏิบัติการ ซึ่งทำหน้าที่ประกอบวัตถุระเบิดที่มีความเชี่ยวชาญ เคยก่อเหตุวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู หมวดปืนเล็กที่ 2 ฉก.นราธิวาส 32 มาแล้วหลายครั้งในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา และ 3.นายฮาเร๊ะ เจ๊ะมุ แกนนำระดับปฏิบัติการ ซึ่งทำหน้าที่เป็นครูฝึกกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค รวมทั้งทำหน้าที่จัดหาอุปกรณ์เพื่อนำมาใช้ในการฝึกแบบกองโจร อีกทั้งยังเป็นมือประกอบระเบิดชนิดแสวงเครื่องที่มีความเชี่ยวชาญอีกด้วย
ส่วนของกลางที่ตรวจยึดได้ อาทิ ระเบิดชนิดขว้าง 1 ลูก ระเบิดแบบเท้าเหยียบ 1 ลูก รวมทั้งเป้สนาม 3 ใบที่ภายในบรรจุเสบียงอาหาร ชุดลายพรางทหาร และแผนที่ตั้งของฐานทหารและสถานียุทธศาสตร์ในหลายอำเภอ รวมทั้งอาวุธปืน 3 กระบอกได้แก่ ปืนเอ็ม 16 ชนิดยาว 1 กระบอก ที่ตรวจสอบพบหมายเลขประจำปืนคือ 9291265 ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าเป็นปืนของเจ้าหน้าที่สังกัดใดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะที่อีก 2 กระบอกคือปืนเอ็ม 16 ชนิดสั้นและปืนพกสั้นขนาด .357 เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง โดยจะได้มีการตรวจคราบลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอว่ากลุ่มอาร์เคเคเคยนำไปใช้ก่อเหตุที่ใดมาบ้าง