นราธิวาส - ทหารทะลายค่ายพักโจรใต้RKKบนเทือกเขาบูโด และยึดของกลางได้กว่าร้อยรายการ ซึ่งเป็นผลมาจากการสอบสวนและขยายผลสมาชิกแนวร่วมที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ ระหว่างทางพบสมาชิกล่าถอยออกจากพื้นที่โดยไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด
วันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส และ น.ท.รัฐโรจน์ อภิรัชช์รัศมี ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 ได้ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 46 และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ขึ้นพิสูจน์ทราบบนเทือกเขาบูโดหลังหมู่บ้านบาดง ม.6 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จากการสอบสวนปากคำขยายผล 2 สมาชิกแนวร่วมกองกำลังติดอาวุธ RKK คือ นายวูกิฟฟี จิเดร์ และนายมะยากรีทาเดร์ ซึ่งเป็นลูกสมุนของนายมะรอโซ จันทราวดี แกนนำกองกำลังติดอาวุธ RKK ที่รับผิดชอบเคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ อ.บาเจาะและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งผ่านการก่อเหตุคดีความมั่นคงในพื้นที่ จ.นราธิวาสมาอย่างโชกโชน
โดยการเดินทางขึ้นไปพิสูจน์ทราบในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ใช้ชุดสุนัขสงครามดมกลิ่น และใช้เวลาในการเดินเท้าขึ้นเทือกเขาเป็นระยะทาง 2 ก.ม. โดยระหว่างการเดินเท้าเข้าตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบสมาชิกกองกำลังติดอาวุธจำนวน 5 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือกำลังนำกำลังล่าถอยขึ้นเทือกเขา โดยไม่มีการปะทะ
หลังจากเจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่แล้วเสร็จ ตรวจสอบภายในฐานปฏิบัติการของกองกำลังติดอาวุธ RKK พบปลูกสร้างเป็นโรงเรือนขนาดใหญ่ สร้างด้วยโครงไม้และมุงหลังคาด้วยสังกะสี สามารถอาศัยอยู่ได้ประมาณ 10 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางได้จำนวนกว่า 100 รายการ ที่วางอยู่ระเกะระกะรวมทั้งใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าแบบสะพาย ซึ่งของกลางที่สำคัญๆประกอบด้วย ระเบิดปิงปอง จำนวน 500 ลูก ที่สามารถประกอบระเบิดแสวงเครื่องแบบเท้าเหยียบได้ถึง 10 ลูก เครื่องครัว เสบียงอาหาร เป้สนาม เปลสนาม กระสุนปืนเอ็ม 16 ชุดลายพรางทหาร ผ้าโสร่ง โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆอีกเป็นจำนวนมากที่ใช้เป็นอุปกรณ์ในการประกอบระเบิด รวมทั้งสิ่งของที่ใช้ในการยังชีพในป่า
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดของกลางแล้วเสร็จ ได้ทำการรื้อถอนฐานปฏิบัติการพร้อมทั้งได้นำของกลางมาทำการตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝงและทำการตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับหลักฐานต่างๆที่เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมไว้ในทำเนียบ เพื่อนำไปสู่การขยายผลจับกุมสมาชิกกองกำลังติดอาวุธต่อไป