ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พบเต่าหญ้าขนาดใหญ่ติดอวนชาวประมงได้รับบาดเจ็บสาหัส เกยตื้นหน้าชายหาดเลพัง เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์หายากให้การช่วยเหลือพร้อมอนุบาลไว้ก่อนปล่อยลงทะเล
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (23 พ.ค.) สัตวแพทย์หญิง พัชราภรณ์ แก้วโม่ง สัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมจังหวัดภูเก็ต กำลังช่วยกันนำเต่าหญ้าขนาดใหญ่ที่เกยตื้นหน้าชายหาดเลพัง ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงจากรถกู้ภัยของมูลนิธิกุศลธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อทำการรักษาพยาบาลเนื่องจากเต่าตัวดังกล่าวถูกอวนรัดขาทั้ง 4 ขา จนเป็นแผลเน่าเปื่อยติดเชื้อเรื้อรังมานาน โดยเฉพาะที่ขาหน้าด้านขวาเป็นบาดแผลใหญ่ลึก
เบื้องต้นสัตวแพทย์หญิง พัชราภรณ์ แก้วโม่ง สัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ได้ให้ยาปฎิชีวนะ เพื่อฆ่าเชื้อ รักษาแผล และยาบำรุงอย่างละ 1 เข็ม จากนั้นได้นำไปอนุบาลในบ่อพัก
สัตวแพทย์หญิง พัชราภรณ์ กล่าวว่า สำหรับเต่าทะเลที่พบนี้เป็นเต่าหญ้าเพศเมียวัยเจริญพันธุ์ อายุประมาณ 30 ปี เป็นเต่าขนาดใหญ่ กว้าง 67 เซนติเมตร ยาว 66 เมตร น้ำหนัก 35 กิโลกรัม ถือเป็นเต่าที่หายาก มีบาดแผลที่เน่าเปื่อยเรื้อรังมานานคาดว่าจะถูกอวนของชาวประมงรัดมานานนับเดือน จนทำให้ขาทั้ง 4 ข้างเป็นแผลเน่าเปื่อย แต่ร่างกายยังแข็งแรง เบื้องต้นต้องรอดูอาการไปก่อน เพราะจากบาดแผลที่เน่าเปื่อยจนเป็นขุ่ย ติดเชื้อเรื้อรัง หากเชื้อโรคไม่เข้ากระแสเลือดคาดว่าพักฟื้นสักระยะหนึ่งประมาณ 2-3 เดือน ก็จะสามารถปล่อยคืนธรรมชาติได้
สำหรับสถานการณ์เต่าทะเลเกยตื้นในชายฝั่งทะเลอันดามันในช่วงของปีนี้พบว่ามีเกยตื้นเป็นจำนวนมาก และต้องอนุบาลในบ่อพักหลายสิบตัว ส่วนใหญ่จะได้รับบาดเจ็บจากเครื่องมือประมงโดยเฉพาะถูกอวนรัดเป็นแผลจนได้รับบาดเจ็บและมาเกยตื้นดังกล่าว
ทั้งนี้ อยากฝากพี่น้องชาวประมงว่าโปรดช่วยกันอนุรักษ์เต่าทะเลด้วย หากพบเต่าติดอวนไม่ควรตัดอวนทิ้ง ควรนำเต่าออกจากอวนก่อนปล่อยคืนสู่ทะเล เพราะในขณะนี้เต่าทะเลทุกชนิดใกล้เข้าสู่การสูญพันธุ์ หากไม่ร่วมกันอนุรักษ์ต่อไปในท้องทะเลไทยจะไม่มีเต่าให้ลูกหลานได้พบเห็นอีกต่อไป