ยะลาเตือนโจรใต้เตรียมก่อเหตุหนักหลังเด็ดหัวแกนนำได้

ยะลา - ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองแถลงผลการปฏิบัติงาน ขณะที่ ผบ.ฉก.ยะลา แจ้งเตือนในพื้นที่เสี่ยงให้ระวังคนร้ายก่อเหตุต่อพระสงฆ์ ครู ชุมชนไทยพุทธ หลังเจ้าหน้าที่สามารถเด็ดหัวแกนนำป่วนใต้คนสำคัญได้

วันนี้ (21 พ.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจยะลา หมู่ที่ 1 บ้านท่าสาป ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พล.ต.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา และ พ.ต.อ.พีระ บุญเลี้ยง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานในพื้นที่ จ.ยะลา ในการเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย และ การลงพื้นที่พบปะประชาชน และญาติของผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อหาข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่

ซึ่งที่ผ่านมา พ.ท.ภาส วงศ์สารภี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 13 อ.กรงปินัง ได้เข้าพบปะ พัฒนาสัมพันธ์กับญาติพี่น้องของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีหมายตามพระราชกำหนด และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพื่อให้คำแนะนำปรึกษาหารือในการออกมาแสดงตนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกับทางราชการ และเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2544 ที่ผ่านมา ได้มีบุคคลออกมาแสดงตนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกับทางราชการ หน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 13 จำนวน 1 คน โดยมีผู้นำสี่เสาหลักบ้านแบหอ หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยกระทิง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ร่วมกันเป็นพยานในการมอบตัว

จากการขยายผลซักถาม บุคคลดังกล่าว หน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 13 ร่วมกับชุดปฏิบัติการข่าว 404 , หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 41 และหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีที่ 21 ร่วมกันขยายผลในพื้นที่บ้านจือแล หมู่ที่ 2 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี จนสามารถนำไปสู่การตรวจยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ได้จำนวน 7 รายการ รายละเอียดดังนี้

1) ปืนลูกซอง 5 นัด แบบพับฐาน ยี่ห้อ เรมิงตัน 870 เอ็กซ์เพรส หมายเลข กท.495459
2)กระสุน จำนวน 20 นัด
3) กระสุน ปลย.เอ็ม 16 ขนาด 5.56 มม. จำนวน 69 นัด
4) กระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 16 นัด
5) เข็มขัดใส่กระสุนปืนลูกซอง จำนวน 1 เส้น
6) ซองกระสุน ปลย.AK - 47จำนวน 1 ซอง
7) ชุดฝึกลายพรางสีเขียวแบบทหาร จำนวน 1 ชุด

สืบเนื่องจากหน่วยเฉพาะกิจยะลา ได้ดำเนินการตามแผนยุทธการ “บูโด 54” ตามนโยบายของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยการติดตามด้านการข่าว รวมถึงข่าวการที่ได้รับจากประชาชน ว่ามีเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.บันนังสตา และเครือข่ายบ้านจาเราะแป ต.ธารโต อ.ธารโต ได้เข้ามาหลบซ่อน คาดว่าเตรียมการเพื่อจะก่อเหตุ จึงเฝ้าติดตามจนมีความชัดเจน และได้ประสานกำลังจาก ตชด., ภ.จว.ยะลา, ทหารพราน 47 และ หน่วยเฉพาะกิจยะลา 16 รวมกำลังกว่า 30 นาย จนเช้ามืดของวันที่ 20 พ.ค.54 ที่ผ่านมา

ขณะเข้าปิดล้อมบ้านเป้าหมายบริเวณคอกแพะ พบบุคคลเป้าหมาย 4คน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้แสดงตนด้วยความบริสุทธิ์ แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี เจ้าหน้าที่ที่วางกำลังปิดเส้นทางจึงได้ยิงตอบโต้นานประมาณ 15 นาที จนเสียงปืนสงบ จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่พบกลุ่มคนร้ายเสียชีวิตจำนวน 4 ราย พร้อมอาวุธปืน AK - 47 จำนวน 2 กระบอก และปืนพกสั้น ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก

จากการตรวจสอบหลักฐานทราบว่า บ้านที่กลุ่มคนร้ายได้อาศัยหลบซ่อนตัวนั้น ภายในบริเวณคอกแพะเป็นบ้านเลขที่ 51/1 หมู่ที่ 3 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา มีนายมะดาลี ฮูลา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นพี่ภรรยาของ นายมะสอบรี อาซู อายุ 29 ปี 1 ใน 4 คนร้าย ที่เสียชีวิตอยู่ในบัญชีกลุ่มมือระเบิดของผู้ก่อเหตุ อ.ธารโต ส่วนอีก 3 ศพ ทราบต่อมาคือนาย อาแซ ฮูลู อายุ 30 ปี, นาย มุสตอปา แนลูแล อายุ 34 ปี ผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับผู้ปฏิบัติการที่มีหมาย ป.วิอาญา หลายฉบับ และอีกศพคือ นายมะแอ อภิบาลแบ อายุ 34 ปี ระดับสั่งการและเป็นหัวหน้าคอมมานโดเป็นบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องวางแผนสั่งการในหลายเหตุการณ์ที่ทางการมีความต้องการตัวมาก

จากการตรวจสอบเก็บหลักฐานบริเวณที่เกิดเหตุพบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 9 เครื่อง และในบ้านพัก ผชบ. พบซองกระสุนและกระสุนปืนพร้อมสายไฟยาว กว่า 100 เมตร และ หลักฐานอื่น ๆ คาดว่ากลุ่มคนร้ายเข้ามาวางแผนและเตรียมการก่อเหตุใหญ่เพราะแกนนำระดับ นายมะแอ อภิบาลแบ ถือว่าเป็นระดับสั่งการและก่อเหตุรุนแรงทั้งลอบยิง ฐานปฏิบัติการทหาร ตำรวจ สถานที่ราชการ ยิงถล่มบ้านพักนายอำเภอ และ สภ.บันนังสตา ยิงและเผารถยนต์เจ้าหน้าที่รวมทั้งเหตุการณ์ยิงผู้กองแคน และหมวดตี้จากเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มนี้เป็นระดับสั่งการ โดยมีแกนนำระดับปฏิบัติการพร้อมมือระเบิดร่วมด้วย จึงเชื่อว่ามาวางแผนเพื่อเตรียมการก่อเหตุหลายเหตุในพื้นที่ จ.ยะลา อย่างแน่นอน

พล.ต.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากที่แกนนำผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการพร้อมลุกน้องเสียชีวิต ตนเองได้กำชับและแจ้งเตือนไปยังพื้นที่เสี่ยงได้แก่ พื้นที่ อ.กรงปินัง อ.บันนังสตา และ อ.ธารโต รวมทั้งภายในเขตเทศบาลนครยะลา ให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย มีการเพิ่มความเข้มในการดูแลพระสงฆ์ บุคลากรครู รวมทั้งชุมชนชาวไทยพุทธ เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง อาจจะมีการตอบโต้ได้ทุกเวลา สำหรับการติดตามไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่นั้น ตนเองได้มีการเรียกประชุมโต๊ะข่าวทุก ๆ อาทิตย์ เพื่อติดตามข้อมูลความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และเตรียมความพร้อม มีการติดตามข้อมูลข่าสารอย่างใกล้ชิด พร้อมสามารถรับมือทุกสถานการณ์หากเกิดขึ้นในพื้นที่