ยะลา - แม่ทัพภาคที่ 4 เตือนประชาชนอย่าหลงกล หลายเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นต้องการให้เกิดความแตกแยกระหว่างๆทยพุทธและมุสลิม เชื่อเป็นระเบิดที่ผลิตจากแหล่งเดียวกันกับเหตุระเบิดพรานป่า เสียชีวิต 9 ศพ
เวลา 11.15 น.วันนี้ (17 พ.ค.) ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับ บาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงที่ผ่านมาจำนวน 6 นาย พร้อมนำเงินช่วย เหลือเบื้องต้นมามอบเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทหารทุกนาย
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้นั้น ตนเองก็อยากจะขอให้ทุกคนตั้งสติก่อน ว่า เหตุการณ์นี้มีคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการแยกพี่น้องชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมออกจากกัน โดยการลอบทำร้ายพระ ซึ่งทุกคนควรจะต้องสติให้ดีว่า ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องชาวไทยพุทธ หรือไทยมุสลิม ทุกคนยังเป็นญาติที่ดีต่อกัน อย่าแตกแยกกันด้วยคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ที่พวกเขาต้องการทำตามวัตถุประสงค์ของเขา สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นทหารก็จะแก้ไขในส่วนที่มีปัญหาอยู่ให้เข้มงวดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก หลังจากนี้ ก็จะต้องปฏิบัติการตามหลักการที่มีอยู่ ตามหลักการของทหาร ที่มีวิธีการอยู่แล้ว
ขณะนี้ตนเองเชื่อว่าเส้นทางที่จะไปสู่ความเป็นสันติสุขนั้นใกล้เข้ามาแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่มากขึ้น คนกลุ่มนี้มีความพยายามที่จะก่อเหตุให้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งขณะนี้ก็จะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น
ส่วนกรณีมีความเป็นห่วงว่ากลุ่มคนร้ายอาจจะก่อเหตุกับฝ่ายพี่น้องมุสลิม เพื่อให้เป็นเงื่อนไขนั้น ตนเองก็ขอยืนยันว่า ทหารจะดูแลพี่น้องทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมเหมือนกัน ไม่แตกต่างเพราะพี่น้องชาวไทยมุสลิมส่วนใหญ่ก็เป็นคนดี เราพยายามจะไม่ให้เกิดเหตุลอบ ทำร้ายกันไปมา ซึ่งก็ได้เชิญผู้นำในพื้นที่มาพูดคุยทำความเข้าใจแล้วว่า เรื่องที่เกิดขึ้น มีคนจงใจจะทำให้พวกเราเป็นศัตรูกัน แต่อย่างไรก็ตามตนเองก็อยากให้ทุกฝ่ายตั้งสติให้ดี
ส่วนความคืบหน้าด้านคดีนั้นล่าสุด ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า สำหรับระเบิดที่คนร้ายนำมาใช้ก่อเหตุนั้นพบว่าเป็นระเบิดชนิด แสวงเครื่องน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 30 กก. ที่คนร้ายบรรจุใส่ถังแก๊สปิกนิก ขนาด 7 กก.โดยลากสายในการจุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ และระเบิดมีความสมบูรณ์มาก เนื่องจากหลักฐานหลงเหลืออยู่น้อย
แต่อย่างไรก็ตาม ระเบิดชนิดนี้ เชื่อว่าเป็นระเบิดที่ผลิตจากแหล่งเดียวกันกับเหตุระเบิดพรานป่า เสียชีวิต 9 ศพ ที่หมู่ 3 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา รวมทั้งเหตุลอบวางระเบิดทหารเสียชีวิต 3 ศพ เมื่อช่วงกลางปี 2553 ที่ผ่านมา เนื่องจากพบหลักฐาน โดยเฉพาะสายไฟ ซึ่งเป็นสายไฟชนิดเดียวกัน รวมทั้งวิธีก่อเหตุ และหลักฐานที่พบ ก็เป็นชนิดเดียวกัน โดยเชื่อว่าคนร้ายที่ประกอบวัตถุระเบิดรายนี้ มีความเชี่ยวชาญในการประกอบวัตถุระเบิดเป็นอย่างมาก
ชุดสืบสวนสอบสวน ระบุว่า สำหรับกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นการกระทำของ นายฮูไบดีละห์ รอมลี ที่เป็นแกนนำระดับสั่งการในพื้นที่ ต.ปะแต ต.บาโร๊ะ ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา
เวลา 11.15 น.วันนี้ (17 พ.ค.) ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับ บาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงที่ผ่านมาจำนวน 6 นาย พร้อมนำเงินช่วย เหลือเบื้องต้นมามอบเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทหารทุกนาย
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้นั้น ตนเองก็อยากจะขอให้ทุกคนตั้งสติก่อน ว่า เหตุการณ์นี้มีคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการแยกพี่น้องชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมออกจากกัน โดยการลอบทำร้ายพระ ซึ่งทุกคนควรจะต้องสติให้ดีว่า ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องชาวไทยพุทธ หรือไทยมุสลิม ทุกคนยังเป็นญาติที่ดีต่อกัน อย่าแตกแยกกันด้วยคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ที่พวกเขาต้องการทำตามวัตถุประสงค์ของเขา สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นทหารก็จะแก้ไขในส่วนที่มีปัญหาอยู่ให้เข้มงวดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก หลังจากนี้ ก็จะต้องปฏิบัติการตามหลักการที่มีอยู่ ตามหลักการของทหาร ที่มีวิธีการอยู่แล้ว
ขณะนี้ตนเองเชื่อว่าเส้นทางที่จะไปสู่ความเป็นสันติสุขนั้นใกล้เข้ามาแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่มากขึ้น คนกลุ่มนี้มีความพยายามที่จะก่อเหตุให้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งขณะนี้ก็จะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น
ส่วนกรณีมีความเป็นห่วงว่ากลุ่มคนร้ายอาจจะก่อเหตุกับฝ่ายพี่น้องมุสลิม เพื่อให้เป็นเงื่อนไขนั้น ตนเองก็ขอยืนยันว่า ทหารจะดูแลพี่น้องทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมเหมือนกัน ไม่แตกต่างเพราะพี่น้องชาวไทยมุสลิมส่วนใหญ่ก็เป็นคนดี เราพยายามจะไม่ให้เกิดเหตุลอบ ทำร้ายกันไปมา ซึ่งก็ได้เชิญผู้นำในพื้นที่มาพูดคุยทำความเข้าใจแล้วว่า เรื่องที่เกิดขึ้น มีคนจงใจจะทำให้พวกเราเป็นศัตรูกัน แต่อย่างไรก็ตามตนเองก็อยากให้ทุกฝ่ายตั้งสติให้ดี
ส่วนความคืบหน้าด้านคดีนั้นล่าสุด ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า สำหรับระเบิดที่คนร้ายนำมาใช้ก่อเหตุนั้นพบว่าเป็นระเบิดชนิด แสวงเครื่องน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 30 กก. ที่คนร้ายบรรจุใส่ถังแก๊สปิกนิก ขนาด 7 กก.โดยลากสายในการจุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ และระเบิดมีความสมบูรณ์มาก เนื่องจากหลักฐานหลงเหลืออยู่น้อย
แต่อย่างไรก็ตาม ระเบิดชนิดนี้ เชื่อว่าเป็นระเบิดที่ผลิตจากแหล่งเดียวกันกับเหตุระเบิดพรานป่า เสียชีวิต 9 ศพ ที่หมู่ 3 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา รวมทั้งเหตุลอบวางระเบิดทหารเสียชีวิต 3 ศพ เมื่อช่วงกลางปี 2553 ที่ผ่านมา เนื่องจากพบหลักฐาน โดยเฉพาะสายไฟ ซึ่งเป็นสายไฟชนิดเดียวกัน รวมทั้งวิธีก่อเหตุ และหลักฐานที่พบ ก็เป็นชนิดเดียวกัน โดยเชื่อว่าคนร้ายที่ประกอบวัตถุระเบิดรายนี้ มีความเชี่ยวชาญในการประกอบวัตถุระเบิดเป็นอย่างมาก
ชุดสืบสวนสอบสวน ระบุว่า สำหรับกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นการกระทำของ นายฮูไบดีละห์ รอมลี ที่เป็นแกนนำระดับสั่งการในพื้นที่ ต.ปะแต ต.บาโร๊ะ ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา