พัทลุง - ผู้ว่าฯพัทลุง แจงสั่งยุติขุดดินรอบวัดสวนธรรมเจดีย์แล้ว หลังให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ กรณีพระวัดสวนธรรมเจดีย์ อ.ควนขนุน ได้รับความเดือดร้อน ไม่กล้าอยู่วัด เกรงเกิดดินถล่ม จากนายทุนขุดดินที่ราชพัสดุ พร้อมยันที่ผ่านมาจังหวัดไม่เคยได้รับเอกสารร้องเรียนความเดือดร้อนจากชาวบ้าน
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้าน และศิษย์ วัดสวนธรรมเจดีย์ หรือ วัดควนสูง หมู่ 3 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังจากที่นายทุนแอบขุดดินราชพัสดุ บริเวณโดยรอบวัดขาย จนทำให้ดินบนยอดเขาบริเวณวัด เกิดรอยแยกเป็นทางยาว และยุบตัว พร้อมทั้งเลื่อนไหล มีเสียงดังตลอดเวลา และยังทำให้โบสถ์มีรอยร้าว ทำให้พระไม่กล้าจำวัด ย้ายหนีออกเกรงดินจะพังลงมาทับ ยังเหลือแต่ พระหล่อย กะตะสโร รักษาการแทนเจ้าอาวาสเพียงรูปเดียวที่กล้าจำวัดเท่านั้น
ในเรื่องนี้ สำนักงานจังหวัดพัทลุง ได้มีหนังสือชี้แจงในกรณีดังกล่าวลงนามโดย นายพิสิษฐ บุญช่วง ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีเนื้อหาสรุปได้ว่า จังหวัดพัทลุง ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว พบว่า ระหว่างวันที่ 23 มี.ค.-3 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีฝนตกหนักในพื้นที่ เป็นเหตุให้เกิดดินถล่มบนเนินเขาหมู่ 3 ต.นางตุง สำหรับที่วัดสวนธรรมเจดีย์ หรือ วันควนสูง มีดินเคลื่อนตัวลงมา ทำให้ผนังกุฏิพังบางส่วน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
สำหรับพื้นที่โดยรอบ ไม่ปรากฏว่า มีนายทุนลักลอบขุดดินในที่ราชพัสดุ แต่มีผู้ได้รับแจ้งการขุดดินตาม พ.ร.บ.การขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 ออกโดยสำนักงานเทศบาลตำบลนางตุง 2 ราย คือ ของ นายศรีวีรชัย สังข์กิจ และนางแปลก สังข์กิจ ซึ่งแปลงของนายศรีวีรชัย ยุติการขุดดินตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.2554 ขณะที่แปลงของนางแปลก จะหมดอายุตามใบอนุญาตวันที่ 13 มิ.ย.2554
ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่ชาวบ้านจะได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อ อำเภอควนขนุนได้แจ้งให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ดำเนินการตรวจสอบตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น สำนักงานเทศบาลตำบลนางตุง ได้มีคำสั่งให้นางแปลก หยุดขุดดินหรือถมดินแล้ว เพื่อป้องกันความเสียหายอื่นๆ ที่จะตามมา โดยนางแปลกได้หยุดการขุดดินตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนกรณีที่ นายอำพร ทองเนื้อขาว กำนันตำบลพนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ร้องเรียนไปที่จังหวัดมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ นั้น จากการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่พบเอกสารร้องเรียนใดๆ จากนายอำพร นอกจากการประสานผ่านอำเภอควนขนุน ซึ่งในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของจังหวัด ล่าสุด อำเภอควนขนุนได้ชี้แจ้งทำความเข้าใจต่อผู้นำองค์กรท้องถิ่น วัด และชาวบ้านได้รับทราบแล้ว
จากกรณีเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้าน และศิษย์ วัดสวนธรรมเจดีย์ หรือ วัดควนสูง หมู่ 3 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังจากที่นายทุนแอบขุดดินราชพัสดุ บริเวณโดยรอบวัดขาย จนทำให้ดินบนยอดเขาบริเวณวัด เกิดรอยแยกเป็นทางยาว และยุบตัว พร้อมทั้งเลื่อนไหล มีเสียงดังตลอดเวลา และยังทำให้โบสถ์มีรอยร้าว ทำให้พระไม่กล้าจำวัด ย้ายหนีออกเกรงดินจะพังลงมาทับ ยังเหลือแต่ พระหล่อย กะตะสโร รักษาการแทนเจ้าอาวาสเพียงรูปเดียวที่กล้าจำวัดเท่านั้น
ในเรื่องนี้ สำนักงานจังหวัดพัทลุง ได้มีหนังสือชี้แจงในกรณีดังกล่าวลงนามโดย นายพิสิษฐ บุญช่วง ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีเนื้อหาสรุปได้ว่า จังหวัดพัทลุง ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว พบว่า ระหว่างวันที่ 23 มี.ค.-3 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีฝนตกหนักในพื้นที่ เป็นเหตุให้เกิดดินถล่มบนเนินเขาหมู่ 3 ต.นางตุง สำหรับที่วัดสวนธรรมเจดีย์ หรือ วันควนสูง มีดินเคลื่อนตัวลงมา ทำให้ผนังกุฏิพังบางส่วน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
สำหรับพื้นที่โดยรอบ ไม่ปรากฏว่า มีนายทุนลักลอบขุดดินในที่ราชพัสดุ แต่มีผู้ได้รับแจ้งการขุดดินตาม พ.ร.บ.การขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 ออกโดยสำนักงานเทศบาลตำบลนางตุง 2 ราย คือ ของ นายศรีวีรชัย สังข์กิจ และนางแปลก สังข์กิจ ซึ่งแปลงของนายศรีวีรชัย ยุติการขุดดินตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.2554 ขณะที่แปลงของนางแปลก จะหมดอายุตามใบอนุญาตวันที่ 13 มิ.ย.2554
ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่ชาวบ้านจะได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อ อำเภอควนขนุนได้แจ้งให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ดำเนินการตรวจสอบตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น สำนักงานเทศบาลตำบลนางตุง ได้มีคำสั่งให้นางแปลก หยุดขุดดินหรือถมดินแล้ว เพื่อป้องกันความเสียหายอื่นๆ ที่จะตามมา โดยนางแปลกได้หยุดการขุดดินตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนกรณีที่ นายอำพร ทองเนื้อขาว กำนันตำบลพนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ร้องเรียนไปที่จังหวัดมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ นั้น จากการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่พบเอกสารร้องเรียนใดๆ จากนายอำพร นอกจากการประสานผ่านอำเภอควนขนุน ซึ่งในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของจังหวัด ล่าสุด อำเภอควนขนุนได้ชี้แจ้งทำความเข้าใจต่อผู้นำองค์กรท้องถิ่น วัด และชาวบ้านได้รับทราบแล้ว
