นราธิวาส - 4 โจรใต้บุกปล้นปั๊มน้ำมันและร้านค้าที่ตากใบ จนเกิดการยิงต่อสู้ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 1 คน ก่อนยึดปืนพกสั้น 9 ม.ม.และ .357 รวม 2 กระบอก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน
ช่วงเย็นวันที่ 14 พ.ค. พ.ต.ท.ปัญญาภาส สิทธิโชติพงศ์ สว.เวร สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกปล้นปั๊มน้ำมันและร้านค้า ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายนราธิวาส-ตากใบ ช่วงบริเวณบ้านโคกมะเฟื่อง ต.ศาลาใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและถูกยิงได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงพร้อมด้วยนายสายันต์ ชนะชัยวงศ์ นายอำเภอตากใบ พ.ต.ท.กระจ่าง รักษ์ณรงค์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ
พบผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นที่ภายในร้านค้าหน้าเคาเตอร์ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 96 ม.5 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทราบชื่อต่อมาคือ นายอับดุลเลาะห์ ตะปีนาราฮา ซึ่งมีหมายจับ ป.วิอาญา ก่อคดีลอบวางระเบิดที่ลานจอดรถภายในที่ว่าการอำเภอเมืองนราธิวาส เมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา โดยในมือกำอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก และห่างจากศพผู้เสียชีวิตไปประมาณ 3 เมตร เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .357 ของคนร้ายตกอยู่อีก 1 กระบอก
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน พลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลตากใบไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ 1.นางเจียมจิต แซ่อิ๋ว อายุ 50 ปี ภรรยาเจ้าของร้าน โดยถูกยิงที่บริเวณหัวไหล่ซ้าย 1 นัด 2.นางสุคนธ์ จันทร์หงษ์ อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนายสุรพงษ์ เจ้าของร้านและเป็นสามีของนางเจียมจิต มีบาดแผลถูกยิงที่เฉี่ยวบริเวณชายโครง
3. นางสมรักษ์ วีรารัตน์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.1 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเสมียนปั๊มน้ำมันตราดาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามร้านค้า มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณหน้าอก จำนวน 1 นัด แต่ 2 ใน 3 คือ นางเจียมจิต นางสมรักษ์ อาการอาหัส แพทย์ต้องส่งตัวรักษาต่อยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
จากการสอบสวนนายสุรพงษ์ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าและปั๊มน้ำมันตราดาว ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย จำนวน 4 คน ขี่รถ จยย. 2 คันเป็นพาหนะ โดยคนร้ายได้แยกออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกไปจอดที่หน้าร้านค้า ส่วนชุดที่ 2 ไปจอดอยู่หน้าออฟฟิตของปั๊มน้ำมันซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม แล้วคนร้ายได้จอดรถ จยย.ให้คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายของแต่ละคัน วิ่งถือปืนเข้าไปในร้านและเข้าไปในออฟฟิต พร้อมประกาศว่านี้คือการปล้นขอให้นางเจียมจิตและนางสมรักษ์ ซึ่งเป็นเสมียนปั๊มน้ำมัน มอบเงินที่อยู่ในโต๊ะลิ้นชัก
แต่นางเจียมจิตและนางสมรักษ์ขัดขืน คนร้ายทั้ง 2 คน จึงได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม.ยิงนางเจียมจิต แต่นายสุรพงษ์ซึ่งเป็นสามีของนางเจียมจิต ซึ่งอยู่ในครัวได้ยินเสียงปืน จึงได้วิ่งถืออาวุธปืนพกสั้น 9 ม.ม.ออกมาจากครัวแล้วยิงใส่นายอับดุลเลาะห์ จำนวน 3 นัดจนเสียชีวิตและอาวุธปืนพกสั้นขนาด .357 ที่เหน็บไว้ที่เอวตกลงกับพื้นที่อีก 1 กระบอก แล้วคนร้ายที่นั่งคร่อมรถ จยย.ติดเครื่องอยู่หน้าร้านได้รีบขี่รถ จยย.หลบหนีไป
ส่วนคนร้ายอีกชุดหนึ่งที่บุกปล้นเงินจากโต๊ะลิ้นชักที่นางสมรักษ์นั่งอยู่ ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 ม.ม.ยิงใส่นางสมรักษ์ จำนวน 1 นัด ก่อนที่จะวิ่งไปหยิบเงินสดจำนวนหนึ่งในลิ้นชัก แล้วรีบวิ่งไปซ้อนท้าย รถ จยย.ที่เพื่อนจอดติดเครื่องอยู่หน้าออฟฟิตของปั๊มน้ำมันหลบหนีไป
