xs
xsm
sm
md
lg

จนท.รู้เบาะแสรถยนต์ก่อเหตุยิงชาวบ้านที่บันนังสตาแล้ว เร่งแกะรอยเป็นกุญแจสาวถึงคนร้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยะลา - หน่วยงานความมั่นคงรู้เบาะแสรถยนต์คนร้ายกราดยิงชาวบ้านที่บันนังสตาแล้ว กำลังตามแกะรอย ระบุเป็นรถมาจากเชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช นำมาใช้ในพื้นที่นานแล้ว ล่าสุดรถคันดังกล่าวไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ชี้หากติดตามได้เป็นกุญแจสำคัญนำไปสู่ตัวคนร้าย

จากกรณีมีคนร้ายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร มีผ้าพันคอสีน้ำเงินแถบเขียว ไม่น้อยกว่า 5 คน ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน 6937 ไม่ทราบหมวดอักษรและจังหวัด ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้า กราดยิงร้านน้ำชา ร้านขายของชำ คนเดินถนน รวม 5 จุด จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านเสียชีวิตคาที่ 4 คน บาดเจ็บ 12 คน ในจำนวนนี้มีหญิงตั้งครรภ์ 2 เดือนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องนอนรักษาตัวในห้องไอซียู อาการยังไม่พ้นขีดอันตรายอยู่ด้วย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุดังกล่าว ปรากฏว่าเมื่อเช้ามืดของวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งห่างกันเพียง 2 วันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บันนังสตา ได้รับแจ้งมีใบปลิวถูกทิ้งทั่วตลาดบันนังสตา โดยมีข้อความกล่าวหาเจ้าหน้าที่ทหารว่าเป็นผู้ก่อเหตุกราดยิงชาวบ้านจนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

หลังมีใบปลิวออกมาในตอนเที่ยงของวันเดียวกัน ปรากฏว่ามีคนร้าย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ประกบยิงและเผา นายวิรัตน์ แต้มประสิทธิ์ อายุ 68 ปี และนางหนูแดง ศรีวิเชียร อายุ 43 ปี สองสามีภรรยาเสียชีวิตขณะขับขี่รถจักรยานยนต์จะกลับบ้าน เหตุเกิดที่บ้านกาโสด หน้าปอเนาะ เรียนบูรงดารุสลาม หมู่ที่ 5 ต.บันนังสตา ห่างจากจุดเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงร้านน้ำชาและร้านขายของชำเพียง 150 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นการตอบโต้ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่เข้าใจว่าการกราดยิงชาวบ้านเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ทหาร

สำหรับความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุกราดยิงชาวบ้านนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้แกะรอยกลุ่มคนร้ายอย่างใกล้ชิด ทราบว่ารถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ตามที่พยานเห็นในวันเกิดเหตุ แต่หมายเลขทะเบียนเป็น บจ 6932 นครศรีธรรมราช มาจาก อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งถูกนำมาใช้งานอยู่ในพื้นที่ จ.ปัตตานีมานานแล้ว ขณะนี้รถยนต์คันดังกล่าวได้หายออกจากพื้นที่แล้วและเจ้าหน้าที่ยังรู้ชื่อเจ้าของรถด้วย ซึ่งยืนยันว่าหากค้นพบรถยนต์คันกล่าวหรือตามหาตัวเจ้าของรถได้แล้ว จะเป็นกุญแจสำคัญสามารถนำไปสู่การติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ง่ายขึ้น

ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนั้น ฝ่ายความมั่นคงได้รับทราบว่าแกนนำคนสำคัญที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ได้ร่วมประชุมระดับปฏิบัติการในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกำหนดมาตรการตอบโต้เจ้าหน้าที่ ทั้งการก่อเหตุทำร้ายคนไทยพุทธและเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะนี้ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ได้ระดมหน่วยในพื้นที่ ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างเร่งด่วน พร้อมสั่งการให้จัดกำลัง รักษาความปลอดภัย ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่อาจเป็นเป้าของการก่อเหตุร้ายอย่างเข้มงวด และให้เพิ่มความถี่ในการออกลาดตระเวนเส้นทาง พร้อมตั้งด่านตรวจรถยนต์ที่เข้าออกพื้นที่บันนังสตาอย่างละเอียดด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น