ระนอง - รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ร่วมปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้านภัยยาเสพติด และรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100% ที่จังหวัดระนอง ชาวระนองร่วมกว่า 7 พันคน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (1 พ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานเปิดโครงการ ชาวระนองร่วมใจเทิดทูนสถาบัน ต้านภัยยาเสพติด และสวมหมวกนิรภัย 100% ที่โรงยิมเนเซียมสนามกีฬาจังหวัดระนอง มี นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นายพรพจน์ กังวาล สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดระนอง นายวิรัช ร่มเย็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระนอง หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำองค์กรเอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมให้การต้อนรับและร่วมพิธีประมาณ 7,000 คน
สำหรับกิจกรรมประกอบด้วย การลงนามถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายราชสักการะ หน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายสัตย์ปฏิญาณเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีมหาราชา และเพลงภูมิแผ่นดินนวมินทร์มหาราชา การปฏิญาณไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเปิดการณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100 % โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นตัวแทนชาวจังหวัดระนองมอบเงินจำนวน 330,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ด้วย
นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาล โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กำหนดนโยบายความมั่นคงของรัฐเกี่ยวกับการปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มีความมั่นคง ในการเป็นศูนย์รวมจิตใจและความรักสามัคคีของคนในชาติ โดยการเสริมสร้างจิตสำนึกให้มีความจงรักภักดี ปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์มิให้มีการล่วงละเมิดพระบรมเดชานุภาพ รัฐบาลได้ดำเนินการทุกวิถีทางอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มั่นคงอยู่เหนือความขัดแย้งทุกรูปแบบ เป็นศูนย์รวมจิตใจและความสามัคคีของคนไทยทั้งชาติ
ซึ่งที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทยก่อให้เกิดความแตกแยกทางความคิด และการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายระหว่างคนไทยด้วยกันเอง ดังนั้นในส่วนของพลังประชาชนอันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่และมีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และช่วยกันปกป้องและเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ อย่าให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด มาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยให้ยังคงสถาบันหลักของประเทศอยู่คู่คนไทยและประเทศไทยตลอดไป
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า สำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ได้มีแผนปฏิบัติการประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน คือ รั้วชายแดน รั้วสังคม รั้วชุมชน รั้วครอบครัวและรั้วโรงเรียน พร้อมกันนี้ยังได้ดำเนินงานใน 2 โครงการหลักควบคู่กันไปด้วยคือการปราบปรามผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
และการฟื้นฟูบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ขณะนี้อยู่ในระยะที่ 3 ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2553 - กันยายน 2554 จึงขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังต่อไปเพื่อความสงบสุขของสังคมและประเทศชาติ ส่วนนโยบายรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100% เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2554
จึงขอให้จังหวัดมีการบังคับใช้กฎหมายให้ได้ผลอย่างจริงจัง พร้อมประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและจิตสำนึกให้แก่ประชาชนซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ซึ่งการที่จังหวัดระนองได้จัดโครงการชาวระนองร่วมใจเทิดทูนสถาบัน ต้านภัยยาเสพติด และสวมหมวกนิรภัย 100% ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทุกจังหวัดควรจะเอาอย่างไปปฏิบัติต่อไป
