ตรัง - “นายกเล็กนครตรัง” สั่งตั้งคณะกรรมสอบ 3 นายช่างวิศวโยธาแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์ต้นไม้ เสาไฟฟ้าแรงสูง แผงโซล่าเซลล์ สายโทรศัพท์และสายเคเบิ้ลล้มเสียหายจำนวนมาก
จากกรณีที่ บริษัท วรประดิษฐ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้รับเหมาของญาติอดีตกำนันชื่อดังเมืองชลบุรี ได้ใช้รถแบ็กโฮขุดเจาะถนนเพื่อทำการวางท่อระบายน้ำและวางสายไฟฟ้าลงใต้ดิน แต่ระหว่างการขุดเจาะนั้นแรงสั่นสะเทือน ได้ส่งผลให้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ จำนวน 11 ต้น รวมทั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแผงโซลาร์เซลล์จำนวน 4 ต้น ของเทศบาลนครตรัง รวมทั้งสายโทรศัพท์และสายเคเบิ้ลที่อยู่หน้า สภ.เมืองตรัง ถนนพัทลุง เขตเทศบาลนครตรัง ได้หักโค่นล้มลงเป็นบริเวณกว้างกว่า 300 เมตร เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 24 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา
นายชาลี กางอิ่ม นายกเทศมนตรีนครตรัง พร้อมกับกองช่างเทศบาลนครตรัง ได้เปิดแถลงข่าวว่า ได้ว่าจ้างบริษัท วรประดิษฐ์ ให้ทำการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบเขตเทศบาลนครตรัง โดยการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน เพื่อให้เกิดความสวยงามและความปลอดภัยต่อประชาชน โดยใช้งบประมาณ 55,488,800 บาท เริ่มสัญญาวันที่ 28 กันยายน 2553-22 กันยายน 2554 ตั้งแต่ ถ.พระรามหก ถ.วิเศษกุล ไปจนถึง ถ.พัทลุง
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความประมาทของผู้รับจ้าง ซึ่งไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เนื่องจากในสัญญาระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนการที่ผู้รับจ้างกล่าวอ้างว่าขณะเกิดเหตุมีลมพัดกรรโชกแรง และพยายามนำรถแบ็กโฮมาดันต้นไม้ไว้แล้วนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้พูดคุยกับทางผู้รับเหมาเป็นการส่วนตัว แต่ก็ได้มอบหมายให้ นางศรีสุภา สุวรรณวร นิติกร 7 เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรังแล้ว เพื่อเป็นหลักฐานในการเอาผิดผู้รับเหมา
พร้อมกันนั้น ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงกับวิศวกรกองช่างที่ควบคุมโครงการนี้ทั้ง 3 คนแล้ว ซึ่งประกอบด้วย นายกิตติพงศ์ ทวนดำ นายช่างโยธา 7 ว. นายสมกูล มีขวัญ นายช่างโยธา 7 ว.และ นายสรณัฐ สุทธินนท์ ช่างโยธา 6 โดยมอบหมายให้นางไพลิน เขื่อนทา ปลัดเทศบาลนครตรัง เป็นประธาน หากผลการสอบสวนพบว่ามีความผิดจริง ให้ดำเนินการทางวินัยไปตามระเบียบโดยไม่มีข้อยกเว้น
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นที่เป็นทรัพย์สินของเทศบาลนครตรัง เบื้องต้นมีต้นชมพู่พันธุ์ทิพย์จำนวน 11 ต้น มีอายุประมาณ 20 ปี มูลค่าต้นละ 25,000 บาท แผงโซลาร์เซลล์ มูลค่าต้นละ 25,000 บาท รวม 4 ต้น เป็นเงิน 4 แสนบาท นอกจากนั้น ยังมีสายโทรศัพท์ สายเคเบิ้ลและสายไฟฟ้า ซึ่งคงจะต้องเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมดจากทางผู้รับเหมา ส่วนต้นไม้ที่ล้มไปแล้วทั้ง 11 ต้นได้ตัดเฉพาะส่วนกิ่งก้านออกให้เหลือ 3 เมตร เพื่อให้ขนย้ายไปปลูกที่บ่อบำบัดน้ำเสียของเทศบาลนครตรัง โดยไม่ได้หายไปไหนตามที่มีกระแสข่าวลือ
นอกจากนี้ นายกเทศมนตรีนครตรัง ยังยืนยันว่า ที่ผ่านมา ตนตั้งใจที่จะพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมืองตรัง ให้นำร่องเทียบกับจังหวัดอื่น ซึ่งแต่ละโครงการกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก แถมยังถูกกดดันและถูกด่าจากประชาชนด้วย ซึ่งก็ต้องทำใจ