เชียงราย - ตำรวจเชียงรายออกหมายจับ “นายกเทศมนตรีตำบลบ้านดู่” แล้ว หลังหลักฐานชี้ชัดบงการสังหารสาวชาวเขาเผ่ามูเซอที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งฝังบ่อขยะ
รางานข่าวจากจังหวัดเชียงรายวันนี้ (25 เม.ย.) จากกรณีได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญฆาตกรรมฝังดิน น.ส.ธิดา โสภนเกิดศิริ อายุ 16 ปี ชาวเขาเผ่ามูเซอ อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่บ้านปู่ไข่ หมู่ 13 บ้านดอยปู่ไข่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ภายในบ่อทิ้งขยะของเทศบาลตำบลบ้านดู่ เมื่อคืนวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสภาพเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วันนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.มงคล สัมภาวะผล ผกก.สภ.เมือง จ.เชียงราย, พ.ต.ท.วรพงศ์ มัจพันธุ์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.สมพร เชยบาล สารวัตรสืบสวน พ.ต.ท.วิเชียร ใหม่ไชย สารวัตรเวรเจ้าของคดี ได้รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานและยื่นขอหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย เลขที่ 123/54 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน หรือปิดบังและซ่อนเร้นทำลายศพ ให้ทำการจับกุมตัว นายจิตร ใจขันธ์ อายุ 43 ปี เลขที่ 128 หมู่ 6 ต.บ้านดู่ ปัจจุบันเป็นนายกเทศมนตรีตำบลบ้านดู่ เนื่องจากหลักฐานและพยานทั้งหมดชี้ไปยังนายจิตร
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หมายจับดังกล่าวมีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ตายหลายราย ทั้งคนภายในครอบครัวของ น.ส.ธิดา นำโดยนายสวัสดิ์ โสภนเกิดศิริ อายุ 48 ปี บิดาของผู้ตาย พนักงานของเทศบาลตำบลบ้านดู่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการบ่อขยะ จนทำให้สามารถประมวลเรื่องราวของผู้ตายได้ว่า ผู้ตายจบการศึกษาระดับชั้น ม.3 จากนั้นก็อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านปู่ไข่
ส่วนความสัมพันธ์กับนายจิตรได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ น.ส.ธิดา อายุได้ 13 ปี เมื่อนายจิตรซึ่งมีภรรยาที่มีบุตรชายและหญิงรวม 2 คน ได้ขึ้นไปสร้างบ้านพักตากอากาศบนดอยปู่ไข่ภายในหมู่บ้านของผู้ตาย และได้ว่าจ้างให้ ด.ญ.ธิดา (ในขณะนั้น) ไปทำความสะอาดครั้งละ 200-300 บาทอยู่บ่อยครั้ง ก่อนที่จะคบหากันเรื่อยมายาวนานร่วม 4-5 ปี ซึ่งที่ผ่านมามีข่าวว่าญาติฝ่ายหญิงได้จัดให้มีพิธีเสียผีและให้ฝ่ายชายจ่ายเงินให้เป็นเงิน 100,000 บาท ก่อนจะกำหนดให้มีพิธีแต่งงานในเร็วๆ นี้ทั้งๆ ที่นายจิตรมีครอบครัวแล้ว
กระทั่งล่าสุด น.ส.ธิดาได้หายตัวออกไปจากบ้านและมีคนไปพบกระเป๋าเปื้อนเลือดตกอยู่บริเวณหลุมที่ร่างถูกฝัง ภายในมีแหวนทองคำหนัก 2 สลึง สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน พลั่วขุดดิน 1 อัน จอบ 2 อัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรอยขุดของรถแบ็กโฮที่ใช้ผังกลบผู้ตาย จึงสอบถามคนขับรถของเทศบาล ต.บ้านดู่ ก็รับสารภาพว่าเป็นคนขุดและฝังกลบเอง โดยซัดทอดไปถึงนายจิตรที่เป็นคนแจ้งและไปยืนออกคำสั่งด้วยตัวเอง ปัจจุบันจึงมีการทำแผนประกอบคำให้การของพยานและนำรถแบ็กโฮไปเก็บไว้ที่ สภ.เมืองเชียงรายแล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังรอผลตรวจคราบเลือดจากวิทยาการตำรวจภาค 5 จ.ลำปาง
พ.ต.ท.วรพงศ์กล่าวว่า ผลการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ที่ใช้ประกอบการขอออกหมายจับจากศาล ระบุว่า ผู้ตายถูกฆาตรกรรมเพราะถูกปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ลำคอและกระสุนเสยขึ้นไปทะลุแก้มหรือใต้หูด้านซ้ายจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายจิตรไม่ได้ไปทำงานที่เทศบาลและไม่ได้ติดต่อประสานขอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุมอยู่ ขณะที่สาเหตุที่ออกหมายจับได้เพราะมีหลักฐานและพยานเพียงพอเรื่องความสัมพันธ์ของผู้ตายกับนายจิตร และพยานในเหตุการณ์การขุดฝังกลบที่ชัดเจน
รางานข่าวจากจังหวัดเชียงรายวันนี้ (25 เม.ย.) จากกรณีได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญฆาตกรรมฝังดิน น.ส.ธิดา โสภนเกิดศิริ อายุ 16 ปี ชาวเขาเผ่ามูเซอ อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่บ้านปู่ไข่ หมู่ 13 บ้านดอยปู่ไข่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ภายในบ่อทิ้งขยะของเทศบาลตำบลบ้านดู่ เมื่อคืนวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสภาพเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วันนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.มงคล สัมภาวะผล ผกก.สภ.เมือง จ.เชียงราย, พ.ต.ท.วรพงศ์ มัจพันธุ์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.สมพร เชยบาล สารวัตรสืบสวน พ.ต.ท.วิเชียร ใหม่ไชย สารวัตรเวรเจ้าของคดี ได้รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานและยื่นขอหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย เลขที่ 123/54 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน หรือปิดบังและซ่อนเร้นทำลายศพ ให้ทำการจับกุมตัว นายจิตร ใจขันธ์ อายุ 43 ปี เลขที่ 128 หมู่ 6 ต.บ้านดู่ ปัจจุบันเป็นนายกเทศมนตรีตำบลบ้านดู่ เนื่องจากหลักฐานและพยานทั้งหมดชี้ไปยังนายจิตร
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หมายจับดังกล่าวมีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ตายหลายราย ทั้งคนภายในครอบครัวของ น.ส.ธิดา นำโดยนายสวัสดิ์ โสภนเกิดศิริ อายุ 48 ปี บิดาของผู้ตาย พนักงานของเทศบาลตำบลบ้านดู่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการบ่อขยะ จนทำให้สามารถประมวลเรื่องราวของผู้ตายได้ว่า ผู้ตายจบการศึกษาระดับชั้น ม.3 จากนั้นก็อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านปู่ไข่
ส่วนความสัมพันธ์กับนายจิตรได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ น.ส.ธิดา อายุได้ 13 ปี เมื่อนายจิตรซึ่งมีภรรยาที่มีบุตรชายและหญิงรวม 2 คน ได้ขึ้นไปสร้างบ้านพักตากอากาศบนดอยปู่ไข่ภายในหมู่บ้านของผู้ตาย และได้ว่าจ้างให้ ด.ญ.ธิดา (ในขณะนั้น) ไปทำความสะอาดครั้งละ 200-300 บาทอยู่บ่อยครั้ง ก่อนที่จะคบหากันเรื่อยมายาวนานร่วม 4-5 ปี ซึ่งที่ผ่านมามีข่าวว่าญาติฝ่ายหญิงได้จัดให้มีพิธีเสียผีและให้ฝ่ายชายจ่ายเงินให้เป็นเงิน 100,000 บาท ก่อนจะกำหนดให้มีพิธีแต่งงานในเร็วๆ นี้ทั้งๆ ที่นายจิตรมีครอบครัวแล้ว
กระทั่งล่าสุด น.ส.ธิดาได้หายตัวออกไปจากบ้านและมีคนไปพบกระเป๋าเปื้อนเลือดตกอยู่บริเวณหลุมที่ร่างถูกฝัง ภายในมีแหวนทองคำหนัก 2 สลึง สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน พลั่วขุดดิน 1 อัน จอบ 2 อัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรอยขุดของรถแบ็กโฮที่ใช้ผังกลบผู้ตาย จึงสอบถามคนขับรถของเทศบาล ต.บ้านดู่ ก็รับสารภาพว่าเป็นคนขุดและฝังกลบเอง โดยซัดทอดไปถึงนายจิตรที่เป็นคนแจ้งและไปยืนออกคำสั่งด้วยตัวเอง ปัจจุบันจึงมีการทำแผนประกอบคำให้การของพยานและนำรถแบ็กโฮไปเก็บไว้ที่ สภ.เมืองเชียงรายแล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังรอผลตรวจคราบเลือดจากวิทยาการตำรวจภาค 5 จ.ลำปาง
พ.ต.ท.วรพงศ์กล่าวว่า ผลการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ที่ใช้ประกอบการขอออกหมายจับจากศาล ระบุว่า ผู้ตายถูกฆาตรกรรมเพราะถูกปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ลำคอและกระสุนเสยขึ้นไปทะลุแก้มหรือใต้หูด้านซ้ายจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายจิตรไม่ได้ไปทำงานที่เทศบาลและไม่ได้ติดต่อประสานขอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุมอยู่ ขณะที่สาเหตุที่ออกหมายจับได้เพราะมีหลักฐานและพยานเพียงพอเรื่องความสัมพันธ์ของผู้ตายกับนายจิตร และพยานในเหตุการณ์การขุดฝังกลบที่ชัดเจน