ตรัง - มือปืนบุกเดี่ยวควงเอ็ม 16 ดักซุ่มยิงถล่มผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนดัง ในพื้นที่อำเภอหาดสำราญ เมืองตรัง ตำรวจยังมึนคลำปมสังหารไม่เจอ เพราะผู้ตายเป็นคนดีและเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน
วันนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 00.40 น. ร.ต.ท.รัตตพล วรรณะ ร้อยเวรสอบสวน สภ.หาดสำราญ จังหวัดตรัง รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 133 หมู่ที่ 3 บ้านบ้าหวี ตำบลหาดสำราญ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมศักดิ์ แสงศรี ผกก.สภ.หาดสำราญ พ.ต.อ.นิรัตน์ ปานดำ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย
โดยที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเป็นที่ทำการกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ พบเพียงกองเลือด มันสมอง และเศษชิ้นเนื้อตกอยู่จำนวนมาก จนเป็นที่น่าสยดสยองและส่งกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้ง ท่ามกลางเพื่อนบ้านกว่า 300 คนที่มายืนมุงดูและวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนอาวุธสงครามชนิดเอ็ม 16 หล่นกระจาย 3 ปลอก อยู่หน้าโรงเก็บรถ ซึ่งห่างจากจุดที่ยิง 3 เมตร ห่างไปอีกใต้รถยนต์ที่จอดในโรงเก็บรถ ยังพบปลอกกระสุน 1 ปลอก ส่วนอีก 1 ปลอกไปตกบนที่นั่ง ขณะเดียวกันยังพบร่องรอยวิถีกระสุนที่กระเบื้องปูพื้นและพบหัวกระสุนปืนที่ยิงไปฝังติดกับประตูโรงรถอีกด้วย 1 หัว
ส่วนผู้เสียชีวิตถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลย่านตาขาวเพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรศพหาร่องรอยกระสุน ก่อนมอบให้ญาตินำกลับไปฝังตามศาสนาอิสลามต่อไป ทราบชื่อคือนายเติด พรหมจันทร์ อายุ 38 ปี มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายรักษาความสงบ หมู่ที่ 3 บ้านบ้าหวี ตำบลหาดสำราญ โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามชนิดเอ็ม 16 จำนวน 5 นัด เข้าที่บริเวณขมับขวาจำนวน 1 นัด ที่ท้ายทอย 1 นัด ที่แขนขวา 1 นัด และที่หลัง 2 นัด
จากการสอบสวนนางบุญเรียง สินสกุล ภรรยาของผู้ตาย ให้การว่า สามีเพิ่งจะได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เมื่อต้นปี 2554 และยังเป็นประธานกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ของหมู่บ้านด้วย โดยก่อนเกิดเหตุสามีพร้อมด้วยนายเชิดชัย หูเขียว โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดอิสลามมูฮาบีด และเพื่อนบ้านรวม 5 คนได้เดินทางกลับมาจากไปปฏิบัติศาสนกิจทำพิธีละหมาดที่มัสยิด ซึ่งผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีนายเชิดชัยนั่งซ้อนท้ายมาด้วยเพื่อกลับมารับประทานอาหารมื้อค่ำที่บ้าน
เมื่อมาถึงบ้านลูกชายคนเล็กของผู้ตายได้ออกมาเปิดประตูบ้านให้ และนายเชิดชัยได้เดินเข้าไปในบ้านก่อน ส่วนผู้ตายได้จอดรถและกำลังเตรียมตัวจะเดินเข้าบ้าน ก็ได้ถูกคนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ในความมืดใช้อาวุธปืนสงครามชนิดเอ็ม 16 กระหน่ำยิงใส่หลายนัดจนสิ้นใจตายดังกล่าว ซึ่งในขณะเกิดเหตุ นางบุญเรียงพร้อมด้วยลูกๆ กำลังอยู่หลังบ้าน และเมื่อได้ยินเสียงปืนก็ได้ให้ลูกๆ ทุกคนหลบหาที่ปลอดภัย เพราะกลัวว่าคนร้ายจะตามมาฆ่าปิดปาก พอสิ้นเสียงปืนก็ออกมาดูและพบว่าสามีถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
ส่วนสาเหตุไม่ทราบว่ามาจากเรื่องใด เพราะที่ผ่านมาสามีเป็นคนดี และเป็นที่รักใคร่ของลูกบ้าน รวมทั้งไม่เคยมีความขัดแย้งส่วนตัวกับใคร
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดสำราญ ได้ประมวลเหตุการณ์แล้วสันนิษฐานว่า คนร้ายซึ่งน่าจะมีความขัดแย้งส่วนตัวกับผู้ตายอย่างรุนแรง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบนถนนอีกฟากหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลกับจุดที่เกิดเหตุ จากนั้นใช้วิธีการเดินลัดเลาะป่าอ้อยเข้ามาดักซุ่มรอที่ข้างโรงเก็บรถ ซึ่งเป็นจุดที่มืด กระทั่งจังหวะที่ผู้ตายกำลังจะเดินเข้าบ้าน จึงใช้อาวุธปืนสงคราม ชนิดเอ็ม 16 ยิงใส่ 1 นัด ในระยะประมาณ 20 เมตร จนล้มคว่ำลงกับพื้น แล้วเดินตรงเข้ามากระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด โดยมีพยานเห็นว่าหลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งย้อนกลับเข้าไปในป่าไร่อ้อยข้างบ้านของผู้ตาย ก่อนที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาถึง
ส่วนสาเหตุขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นมุ่งประเด็นไปที่เรื่องความขัดแย้งส่วนตัว และเรื่องการเมืองท้องถิ่น ส่วนเรื่องชู้สาวไม่ปรากฎพบ เนื่องจากผู้ตายเป็นคนดี ขยันทำงาน และเป็นที่รักนับถือของลูกบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งจะได้นำพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำ เพื่อติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนอย่างมาก และถือเป็นรายที่ 9 ของจังหวัดตรัง ในรอบเดือนเมษายนนี้
