นราธิวาส - โจรใต้โจมตีขบวนรถขนส่งทหารสู่ชายแดนใต้ที่ จ.นราธิวาส อีกระลอก เผยมีการวางแผนไว้เป็นอย่างดี มีทั้งวางระเบิด และดักซุ่มยิงซ้ำ ส่งผลให้มีทหารบาดเจ็บสาหัส 2 นาย พ่วงด้วยคนงานชลประทานถูกลูกหลงเจ็บอีก 6 แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถยึดปืน เอ็ม 79 พร้อมกระสุนของคนร้ายไว้ได้ด้วย
วันนี้ (1 เม.ย.) เวลา 13.15 น. พ.ต.ท.มาตาฮา มูหนะ สวญ.สภ.มูโน๊ะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายวางระเบิดแล้วยิงถล่มซ้ำใส่ขบวนรถยนต์ของทหารสังกัด ร้อย ร.1232 ฉก.นราธิวาส 35 บนถนนสายสุไหงโก-ลก-ตากใบ ช่วงบริเวณบ้านปูโปะ ม.4 ต.มูโน๊ะ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย คนงานชลประทานถูกลูกหลงเจ็บเล็กน้อยอีก 6 คน และรถยนต์ได้รับความเสียหายด้วย จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ตชด.447 รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ และรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ ไทรทัน จอดเสียหลักอยู่ริมถนนในสภาพที่ตัวถังของรถทั้ง 2 คันถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย และมีกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดจำนวน 2 จุด ซึ่งห่างจากรถยนต์กระบะไปประมาณ 5 เมตร โดยหลุมระเบิดจุดแรกลึก 50 ซม. กว้าง 100 ซม. ส่วนที่บริเวณเกาะกลางเจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดลึก 80 ซม. กว้าง 1 เมตร และมีซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิคหนัก 20 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุอยู่นั้น พบระเบิดแสวงเครื่องอีกจำนวน 2 ลูก ซึ่งเป็นชนิดและขนาดเดียวกันกับที่คนร้ายจุดชนวนระเบิด เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องพลังน้ำแรงดันสูงในการยิงทำลายระเบิดทั้ง 2 ลูกทิ้ง และห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธปืนเอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก และกระสุน 5 นัด ของคนร้ายที่ทำตกหล่นไว้ได้ จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 2 นาย เพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคือ 1.ส.อ.พิทักษ์ มาตา อายุ 26 ปี 2.พลทหารสุพัฒน์ เห่มเงิน อายุ 23 ปี ซึ่งทั้ง 2 นาย ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขน ลำตัว อาการสาหัส แพทย์ต้องนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ขบวนรถยนต์บัสของเจ้าหน้าที่ทหารชุด ฉก.นราธิวาส 35 รวม 2 คัน และมีรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งทำหน้าที่ รปภ.ขบวนรถบัส ซึ่งปิดหัวท้ายขบวนอีก 2 คัน แล่นไปตามถนนเพื่อนำกำลังจากฐานที่ตั้งอยู่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ไปส่งยังฐานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย จำนวน 4 คน ขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.2 คันเป็นพาหนะ โดยคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายถืออาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาวุธปืนเครื่องยิงลูกระเบิดแบบ เอ็ม.79 ตามประกบไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ทั้ง 2 คัน ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ที่ทำหน้าที่ปิดท้ายขบวนจำนวน 5-6 นัด โดยมี ส.อ.พิทักษ์ เป็นคนขับ และมีพลทหารสุพัฒน์ นั่งเบาะหน้าคู่กันมา เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจให้เจ้าหน้าที่รีบขับรถยนต์กระบะหลบหนี
แต่คนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งที่ดักซุ่มอยู่บริเวณป่ารกทึบริมถนน ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่นำไปแขวนไว้บริเวณเสาไฟฟ้าริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้น ส.อ.พิทักษ์ จึงได้หักพวงมาลัยหลบไปที่บริเวณเกาะกลางถนน แล้วคนร้ายจึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดลูกที่ 2 ที่นำไปฝังไว้บริเวณเกาะกลางถนนจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ ส.อ.พิทักษ์และพลทหารสุพัฒน์ ถูกสะเก็ดระเบิดของคนร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส
นอกจากนี้ คนงานของชลประทานที่นั่งรถยนต์กระบะตามหลังถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 6 คน ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถ จยย.หลบหนีไป และได้ทำอาวุธปืนเอ็ม 79 พร้อมกระสุนหล่นไว้บนถนนดังกล่าว
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน โดยอาศัยช่องโหว่ในระหว่างเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายกำลัง แต่โชคดีที่ระเบิดอีก 2 ลูกไม่ทำงาน จึงทำให้ทหารทั้ง 2 นายรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด
วันนี้ (1 เม.ย.) เวลา 13.15 น. พ.ต.ท.มาตาฮา มูหนะ สวญ.สภ.มูโน๊ะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายวางระเบิดแล้วยิงถล่มซ้ำใส่ขบวนรถยนต์ของทหารสังกัด ร้อย ร.1232 ฉก.นราธิวาส 35 บนถนนสายสุไหงโก-ลก-ตากใบ ช่วงบริเวณบ้านปูโปะ ม.4 ต.มูโน๊ะ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย คนงานชลประทานถูกลูกหลงเจ็บเล็กน้อยอีก 6 คน และรถยนต์ได้รับความเสียหายด้วย จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ตชด.447 รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ และรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ ไทรทัน จอดเสียหลักอยู่ริมถนนในสภาพที่ตัวถังของรถทั้ง 2 คันถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย และมีกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดจำนวน 2 จุด ซึ่งห่างจากรถยนต์กระบะไปประมาณ 5 เมตร โดยหลุมระเบิดจุดแรกลึก 50 ซม. กว้าง 100 ซม. ส่วนที่บริเวณเกาะกลางเจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดลึก 80 ซม. กว้าง 1 เมตร และมีซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิคหนัก 20 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุอยู่นั้น พบระเบิดแสวงเครื่องอีกจำนวน 2 ลูก ซึ่งเป็นชนิดและขนาดเดียวกันกับที่คนร้ายจุดชนวนระเบิด เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องพลังน้ำแรงดันสูงในการยิงทำลายระเบิดทั้ง 2 ลูกทิ้ง และห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอาวุธปืนเอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก และกระสุน 5 นัด ของคนร้ายที่ทำตกหล่นไว้ได้ จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 2 นาย เพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคือ 1.ส.อ.พิทักษ์ มาตา อายุ 26 ปี 2.พลทหารสุพัฒน์ เห่มเงิน อายุ 23 ปี ซึ่งทั้ง 2 นาย ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขน ลำตัว อาการสาหัส แพทย์ต้องนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ขบวนรถยนต์บัสของเจ้าหน้าที่ทหารชุด ฉก.นราธิวาส 35 รวม 2 คัน และมีรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งทำหน้าที่ รปภ.ขบวนรถบัส ซึ่งปิดหัวท้ายขบวนอีก 2 คัน แล่นไปตามถนนเพื่อนำกำลังจากฐานที่ตั้งอยู่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ไปส่งยังฐานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย จำนวน 4 คน ขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.2 คันเป็นพาหนะ โดยคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายถืออาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาวุธปืนเครื่องยิงลูกระเบิดแบบ เอ็ม.79 ตามประกบไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ทั้ง 2 คัน ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ที่ทำหน้าที่ปิดท้ายขบวนจำนวน 5-6 นัด โดยมี ส.อ.พิทักษ์ เป็นคนขับ และมีพลทหารสุพัฒน์ นั่งเบาะหน้าคู่กันมา เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจให้เจ้าหน้าที่รีบขับรถยนต์กระบะหลบหนี
แต่คนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งที่ดักซุ่มอยู่บริเวณป่ารกทึบริมถนน ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่นำไปแขวนไว้บริเวณเสาไฟฟ้าริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้น ส.อ.พิทักษ์ จึงได้หักพวงมาลัยหลบไปที่บริเวณเกาะกลางถนน แล้วคนร้ายจึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดลูกที่ 2 ที่นำไปฝังไว้บริเวณเกาะกลางถนนจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ ส.อ.พิทักษ์และพลทหารสุพัฒน์ ถูกสะเก็ดระเบิดของคนร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส
นอกจากนี้ คนงานของชลประทานที่นั่งรถยนต์กระบะตามหลังถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 6 คน ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถ จยย.หลบหนีไป และได้ทำอาวุธปืนเอ็ม 79 พร้อมกระสุนหล่นไว้บนถนนดังกล่าว
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน โดยอาศัยช่องโหว่ในระหว่างเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายกำลัง แต่โชคดีที่ระเบิดอีก 2 ลูกไม่ทำงาน จึงทำให้ทหารทั้ง 2 นายรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด
