นราธิวาส - คนร้ายใช้อาวุธสงครามประกบยิงขบวนรถบัสเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 32 เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 7 นาย ขณะเดินทางกลับจากพักเพื่อมาปฏิบัตหน้าที่ที่ อ.บาเจาะ
เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (29 มี.ค.)พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนร้ายจำนวนกว่า 10 คน พร้อมอาวุธปืนสงครามครบมือ ใช้รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน ไล่ตามประกบรถบัสของเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 บนถนนเพชรเกษม สายปัตตานี-นราธิวาส ช่วงบริเวณบ้านจำปากอ ม.1 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ ทำให้รถยนต์บัสได้รับความเสียหายและมีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายนาย จึงพร้อมด้วย น.ท.รัฐโรจน์ อภิรัชช์รัศมี ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถบัสที่ทหารนั่งโดยสารมาจำนวน 10 คัน จอดอยู่ริมถนน รถบัสคันหนึ่งซึ่งอยู่ในสภาพกระจกด้าน และตัวถังด้านซ้ายของคนขับ มีร่องรอยถูกกระสุนปืนเป็นรูพรุน เจ้าหน้าที่จึงได้ขึ้นไปตรวจสอบพบคราบเลือดเป็นจำนวนมากตกกระจายอยู่บนเบาะนั่ง และที่บริเวณพื้นทางเดิน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลบาเจาะไปก่อนหน้าแล้ว ประกอบด้วย 1.ร.ท.ชำนาญ แสวงธรรม, 2.พ.จ.อ.สิงหา แก้วคำชาติ, 3.พ.จ.อ.เฉลิมพล ปันยารชุน, 4.จ.อ.รุ่งนิรันดร์ มหาโภค, 5.พลฯกิตติพงศ์ เข็มอุทา, 6.พลฯมนตรี นามลีหาญ และ 7.พลฯอดิเรก หอมหวน ซึ่งทั้ง 7 นายถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณขาซ้าย และบั่นเอวอาการสาหัส แพทย์ต้องส่งตัวรักษาต่อยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ในขณะที่ทหารชุด ฉก.นราธิวาส 32 จำนวน 400 นาย นั่งรถยนต์บัสจำนวน 10 คัน กลับจากการพักเพื่อมาปฏิบัติหน้าที่ที่ อ.บาเจาะ ในระหว่างที่รถบัสทหารกำลังวิ่งกันมาเป็นขบวน เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายจำนวนประมาณ 10 คน นั่งรถยนต์กระบะ 2 คันไม่ทราบหมายเลขทะเบียน สีแดง และสีขาว ได้พยายามวิ่งแซงขบวน เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งกระบะหลังทั้ง 2 คัน ได้ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม.16และอาก้า.ยิงใส่รถยนต์บัสทหารคันที่ 2 จำนวนหลายชุดใหญ่กว่า 30 นัด แล้วรีบขับหลบหนี
เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารที่นั่งอยู่บนรถบัสถูกกระสุนปืนของคนร้าย ต่างได้ตะโกนบอกให้คนขับรถรับทราบ และได้นำรถบัสจอดริมถนน เพื่อนทหารจึงได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมทั้งแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบและเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ กลุ่มคนร้ายมักลอบก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บไปจำนวนหลายนายแต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้