ยะลา - เลขาธิการ ศอ.บต.สั่งเร่งติดตั้งกล้อง CCTV ใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ของกระทรวงมหาดไทยที่มีปัญหาข้ามปีให้ใช้งานได้อย่างเร็วที่สุดภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้าย
นายภานุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ตนในฐานะประธานอนุกรรมการเรื่องติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือกล้อง CCTV ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้มีโครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือกล้อง CCTV ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการติดตั้งทั้งหมด 3,520 ครอบคลุมทั่วทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.จะมีการเร่งรัดให้เสร็จสิ้น ให้เร็วที่สุดภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ เพื่อเป็นการเฝ้ามอง ป้องกันก่อนเกิดเหตุต่างๆ และหลังเกิดเหตุ เพื่อให้ได้ผลมากขึ้นในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ
โดยทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็จะมีการจัดให้มีการอบรมการเฝ้ามองกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ภายในเขตเทศบาล แก่เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นมาตรการในการป้องกันการก่อเหตุร้ายในย่านชุมชน และในเขตพื้นที่เมือง คาดว่า เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะได้ผลมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ประโยชน์จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ได้ภาพที่มีความชัดเจน การทำงานของเจ้าหน้าที่ง่ายขึ้น
สำหรับการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือกล้อง CCTV ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงมีปัญหาอยู่นั้น ได้อนุมัติโครงการในสมัยรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ 3,520 กล้อง ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยนายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการระทรวงมหาดไทย เสนอ โดยมีการกำหนดคุณลักษณะของกล้อง และ SOFEWARE ที่สำคัญ จำใบหน้าคนได้ จับวัตถุต้องสงสัยได้ และระบบโครงข่ายเชื่อมโยงทั้งจังหวัดและ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งหมด 3,520 ตัว
โดยจังหวัดนราธิวาสจำนวน 1,028 กล้อง จังหวัดยะลาจำนวน 596 กล้อง จังหวัดปัตตานีจำนวน 990 กล้อง 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา จำนวน 874 กล้อง และจังหวัดสตูลจำนวน 32 กล้อง ซึ่งกล้องที่ติดตั้งทั้งหมดยังไม่สามารถใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน แม้ว่ากล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา มีความสำคัญมากกว่าพื้นที่อื่นๆ เนื่องจากปัญหาการก่อความไม่สงบเริ่มทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2554 ที่ผ่านมา คนร้ายได้ก่อเหตุในลักษณะระเบิดคาร์บอมบ์ และรถจักรยานยนต์บอมบ์หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุได้อย่างทันควัน เนื่องจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้นั้นค่อนข้างที่จะยังไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถชี้ภาพชัดๆ ของคนร้ายที่นำคาร์บอมบ์ หรือจักรยานยนต์บอมบ์ มาวางไว้ได้อย่างชัดเจน ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ในการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมีความยากลำบาก และมีความล่าช้าในการทำคดี