xs
xsm
sm
md
lg

ยื่นคัดค้านแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต เชื่อเอื้อผลประโยชน์บางคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสรนันท์ เสน่ห์  กรรมการธรรมภิบาลประจำจังหวัดภูเก็ต เข้ายื่นหนังสือคัดค้ารูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งสส.จังหวัดภูเก็ต กับนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ จ.ภูเก็ต
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยื่นหนังสือ “สดศรี” ค้านแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต หวั่นเอื้อประโยชน์การเลือกตั้งให้บางพรรค พร้อมเสนอเลือกรูปแบ่งเขตเลือกแบบเดิม ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกัน ขณะที่ “สดศรี” เผย มีการคัดค้านแล้วหลายจังหวัด ยืนยัน กกต.พร้อมจัดการเลือกตั้งถ้ารัฐบาลยุบสภาจริง ส่วนเรื่องสถาบัน ระบุ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตามกฎหมายกำหนดไว้แล้วสถาบันอยู่เหนือการเมือง

วันนี้ (19 เม.ย.) ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสรนันท์ เสน่ห์ กรรมการธรรมาภิบาลประจำจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือคัดค้านการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดภูเก็ต ต่อ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ในขณะที่เดินทางมาเป็นประธานเปิดการสัมมนา “โครงการการเมืองและการเลือกตั้งระดับภูมิภาค (ภาคใต้) ซึ่งสำนักงานพัฒนาบุคลากรสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งจัดขึ้น

โดย นายสรนันท์ กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต ได้ประกาศเรื่องการเสนอรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งปี 2554 เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา 3 แบบ ประกอบด้วย รูปแบบที่ 1 เขตเลือกตั้งที่ 1 มีพื้นที่ อ.เมือง ยกเว้นตำบลฉลอง เทศบาลราไวย์ เทศบาลตำบลกะรน มีประชากร 170,123 คน เขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย พื้นที่ อ.ถลาง อ.กะทู้ ต.ฉลอง เทศบาลตำบลราไวย์ และเทศบาลตำบลกะรน มีประชากร 174,944 คน

รูปแบบที่ 2 เขตเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วย พื้นที่ อ.เมือง ยกเว้นเทศบาล ต.รัษฎา และ ต.เกาะแก้ว มีประชากร 161,296 คน เขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย พื้นที่ อ.กะทู้ อ.ถลาง ต.เกาะแก้ว และเทศบาล ต.รัษฎา มีประชากรจำนวน 183,771 คน และรูปแบบที่ 3 เขตเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วยพื้นที่ อ.เมือง ยกเว้นเทศบาล ต.ราไวย์ เทศบาล ต.กะรน มีประชากรจำนวน 191,000 คน และเขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย พื้นที่ อ.ถลาง อ.กะทู้ เทศบาล ต.ราไวย์ และเทศบาล ต.กะรน มีประชากรจำนวน 154,067 คน

ซึ่งจากการประมวลข้อคิดเห็นของประชาชน พบว่า แบบแบ่งเขตเลือกตั้งรูปแบบที่ 1 และ 3 ไม่เหมาะสม ซึ่งรูปแบบที่ 1 นั้น ขัดแย้งกับบทบัญญัติในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้การจัดการเขตเลือกตั้งจะต้องคำนึงถึงพื้นที่ที่อยู่ติดต่อใกล้ชิดกัน เพื่อความสะดวกในการเดินทาง แต่การแบ่งเขตในรูปแบบที่ 1 ครั้งนี้ พบว่า พื้นที่แบ่งเขตอยู่ไกลกันแบบหัวเกาะใต้เกาะ และมองว่า การแบ่งเขตดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์ทางการเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองบางพรรค

ส่วนการแบ่งเขตในรูปแบบที่ 3 ก็เช่นกัน และมองว่า รูปแบบที่เหมาะสมน่าจะเป็นรูปแบบที่ 2 ซึ่งเป็นการแบ่งเขตตามเขตการเลือกตั้งเดิม เพราะมีความเหมาะสมกับสภาพชุมชนความใกล้ชิดของพื้นที่ รวมทั้งความสะดวกในการคมนาคม รวมทั้งจำนวนประชากรในเขตดังกล่าวแม้ว่าเกินจากค่าเฉลี่ย ส.ส.1 คนต่อจำนวนประชากรของจังหวัดภูเก็ต แต่ก็เกินไปเพียง 6.51% เท่านั้น จึงได้เดินทางเข้ามายื่นหนังสือในครั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลให้ทาง กกต.พิจารณาการแบ่งเขตเลือกตั้งให้เหมาะสม

ขณะที่ นางสดศรี กล่าวว่า สำหรับรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ กกต.จังหวัด ส่งให้ กกต.กลาง พิจารณานั้น ขณะนี้ยังมีหลายจังหวัดที่ส่งมาไม่ครบ ซึ่งหลังจากส่งมาครบแล้วจะมีการพิจารณาคัดเลือกแบ่งเขตต่อไป ซึ่งการเสนอแบ่งเขตการเลือกตั้งนั้นทางจังหวัดกลั่นกรองและพิจารณาอย่างละเอียดมาแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการยื่นคัดค้านมาทาง กกต.กลาง ก็จะทำเรื่องที่ยื่นคัดค้านมาพิจารณาด้วย และจะเชิญ ผอ.การเลือกตั้งเข้าให้ข้อเท็จจริง ซึ่งจนถึงขณะนี้มีการยื่นคัดค้านเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งเข้ามาแล้วจำนวนมากโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับพื้นที่ภาคใต้นั้นหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกที่มีการยื่นคัดค้าเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งเข้ามา

นางสดศรี กล่าวถึงความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ว่า ในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้งมีการเตรียมความพร้อมตลอดเวลารอเพียงว่ารัฐบาลจะยุบสภาจริงหรือไม่ และที่ผ่านมา กกต.ซึ่งมีหน้าที่ในการกำกับดูแลการเลือกตั้งได้มีการซักซ้อมตลอดเวลา มีการเชิญ กกต.จังหวัด ผอ.การเลือกตั้งทุกจังหวัดมาร่วมพูดคุยถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น และในเดือนพ.ค.นี้จะมีการประชุมผู้บริหารพรรคการเมืองทุกพรรคเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง รวมทั้งเรื่องการจัดเวทีกลางและความพร้อมของพรรคการเมือง

“ซึ่งการแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่า จะต้องมีสูงเพราะเป็นการแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะฉะนั้นการแข่งขัน เชื่อว่า จะมีหลากหลายรูปแบบทางกกต.ก็ต้องเตรียมความพร้อมและจะต้องรู้เท่าทันกับเกมส์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น” นางสดศรี กล่าวและว่า

ถ้ามีการยุบสภาตามที่รัฐบาลประกาศไว้รวมถึงกฎหมายลูกผ่าน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร การเลือกตั้งก็สามารถดำเนินการได้ แต่ขอให้พรรคการเมืองทุกพรรคร่วมมือกันในการจัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะถ้าการเมืองไม่นิ่งการเลือกตั้งก็ไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยที่เกิดขึ้นในขณะนี้

นางสดศรี กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องของสถาบันนั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่อยากให้ดึงมาเกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะสถาบันอยู่เหนือการเมืองอยู่แล้ว และนักการเมืองเองไม่ควรนำเรื่องของสถาบันมาพูดถึง ส่วนเรื่องของการออกระเบียบมาบังคับใช้นั้น คิดว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งจริงๆ ตามกฎหมายก็กำหนดไว้แล้วว่าสถาบันอยู่เหนือการเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น