ศูนย์ข่าวภูเก็ต-ชาวบ้านเกาะราชาใหญ่ร้องสื่อ นายทุนออกเอกสารสิทธิบนเกาะราชา มาโดยตลอด เผยขณะนี้ออกไปแล้ว 8-9 แปลง แต่ที่ดินชาวบ้านออกโฉนดไม่ได้ อ้างติดกฎกระทรวงฉบับที่ 43 เตรียมฟ้องเจ้าหน้าที่ที่ดินภูเก็ต ต่อศาลปกครองเลือกปฏิบัติ ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ชาวบ้าน
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (19 เม.ย.) ชาวบ้านเกาะราชาใหญ่ หมู่ที่ 3 ต.ราไวย์ นำโดยว่าที่ร้อยตรี ยุทธนา จันทร์ดี ตัวแทนชาวบ้านเกาะราชาใหญ่ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมการออกเอกสารสิทธิที่ดินบนเกาะราชา ถึงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต และประธานชมรมผู้สื่อข่าวภูเก็ต โดยมี นายพีระพงษ์ ผลประมูล ประธานชมรมผู้สื่อข่าวภูเก็ตรับหนังสือ
ว่าที่ร้อยตรี ยุทธนา กล่าวว่า การยื่นหนังสือถึงประธานชมรมผู้สื่อข่าวภูเก็ตและสื่อมวลชนในครั้งนี้ สืบเนื่องจากชาวบ้านบนเกาะราชาไม่ได้รับความเป็นธรรม จากหน่วยงานราชการในการขอออกเอกสารสิทธิที่ดิน แต่ในขณะที่นายทุนสามารถออกเอกสารสิทธิที่ดินได้แล้วไม่ต่ำกว่า 8 แปลง โดยชาวบ้านบนเกาะราชาได้ยื่นขอออกเอกสารสิทธิที่ดินมาตั้งแต่ปลายปี 2546 และในช่วงต้นปี 2547 กรมที่ดินได้แจ้งให้ทราบว่า ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิที่ดินบนเกาะราชาได้ เนื่องจากติดกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พื้นที่ที่เป็นเกาะไม่สามารถออกเอกสารสิทธิที่ดินได้) รวมทั้งไม่มีภาพถ่ายทางอากาศ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ติดต่อสอบถามไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สามารถออกเอกสารสิทธิที่ได้ แต่ก็ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 เม.ย.2554 ชาวบ้านได้รับแจ้งจาก นายสุชาติ ใจเหล็ก ว่าได้รับหนังสือจากสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ที่ ภก.0019/5218 ลงวันที่ 10 มี.ค.2554 เรื่องการรังวัดชี้แนวเขตและลงชื่อรับรองเขตที่ดินกรณีออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ของบริษัท ธีรโชติ จำกัด โดย นายสุพรรณ อานุ เป็นผู้แทนบริษัทฯ เพื่อขอออกโฉนดที่ดิน ตามหลักฐาน น.ส. 3 ไม่ระบุเลขที่ และไม่ระบุที่ดินระวาง ตั้งอยู่ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในวันที่ 22 เม.ย.2554 เวลา 10.00 น.โดยมี นายโฆษิต ธัมรงค์ เป็นช่างรังวัด และมี นายพิเชษฐ สายชู พนักงานเจ้าหน้าที่ ลงนามในหนังสือดังกล่าว
จึงเป็นประเด็นคำถามในหมู่ชาวบ้านผู้มีที่ดินทำกินบนเกาะราชาใหญ่ ถึงความไม่ชอบมาพากลของการออกเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินบนเกาะราชาใหญ่ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายังคงมีการออกเอกสารสิทธิบนเกาะราชามาโดยตลอด แต่ชาวบ้านไม่สามารถสามารถนำข้อมูลมาอ้างอิงได้เท่าที่ควร เนื่องจากถูกปกปิดข้อมูลจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต แต่มาครั้งนี้ชาวบ้านได้ประสบเหตุด้วยตนเองจากกรณีของนายสุชาติ ใจเหล็ก
คำถามจึงอยู่ที่ว่า ทำไมในขณะที่กรมที่ดินได้แจ้งกับชาวบ้านว่าไม่สามารถออกเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินบนเกาะราชาใหญ่ให้กับชาวบ้านได้ แต่สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตยังสามารถดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินบนเกาะราชาใหญ่ให้กับนายทุนได้ ซึ่งชาวบ้านคาดว่าที่ดินที่จะทำการรังวัด คือ แปลงที่ดินที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) ภูเก็ต ได้มีมติเพิกถอนไปแล้ว
นายยุทธนา กล่าวอีกว่า ที่ดินของนายทุนบนเกาะราชาใหญ่ที่มีการออกเอกสารสิทธิไปแล้วในขณะนี้ มีไม่ต่ำกว่า 8 -9 แปลง และในส่วนของชาวบ้านยังถือครองที่ดินอยู่ประมาณ 30 แปลง จากทั้งหมดที่มีประมาณ 80 แปลง และเท่าที่ทราบขณะนี้กลุ่มนายทุนกำลังวิ่งเต้นขอออกเอกสารสิทธิที่ดินบนเกาะราชา บริเวณทิศตะวันตกของอ่าวสยามอีก 2-3 แปลง เนื่องจากที่ดินในบริเวณดังกล่าวมีความสวยงาม สามารถลงทุนก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ตได้เป็นอย่างดี และขณะนี้บนเกาะราชาใหญ่มีโรงแรม รีสอร์ต เกิดขึ้นแล้วประมาณ 5 แห่ง
นายยุทธนา กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ ชาวบ้านที่มีที่ดินทำกินบนเกาะราชาใหญ่ ซึ่งมีประมาณ 60-70 คน จะรวมตัวกันยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตต่อศาลปกครอง ในข้อหาเลือกปฏิบัติและไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน