สุราษฏร์ธานี-ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เผยยอดจับคดียาเสพติดทำได้เกินเป้าจับแล้ว 4,900 คดี ยึดทรัพย์ผู้ค้ากว่า 18 ล้านบาท
วันนี้ (19 มี.ค.) พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 กล่าวที่จังหวัดภูเก็ตถึงผลสำเร็จในการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติดในพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่ง ประกอบด้วย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ชุมพร ว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 21 ธ.ค 53- 15 มี.ค. 54 ในส่วนของตำรวจภูธรภาค8 สามารถจับผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดียาเสพติดได้เกินเป้าหมายที่กำหนดไว้
ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดียาเสพติดทั้งผู้ค้ารายใหญ่ ผู้ค้ารายย่อย ผู้เสพ ได้แล้ว จำนวน 4,900 คน ยึดทรัพย์ผู้ค้ารายใหญ่รายย่อยกว่า 18 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมาพบว่ายอดการจับกุมเพิ่มขึ้นเกือบ100% นอกจากนั้น ในส่วนของการนำผู้เสพเข้าสู่ระบบบำบัดสามารถทำได้จำนวนมากเช่นกัน โดยขณะนี้มีผู้เสพที่เข้าสู่ระบบบำบัดแล้วกว่า 2,000 คน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการระดมกำลังกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ความรับผิดชอบได้เกินเป้าที่วางไว้ แต่ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกจังหวัดดำเนินการกวาดล้างยาเสพติดอย่างเข้มงวดต่อไป โดยเน้นไปที่การสืบค้นเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี โดยอาศัยฐานข้อมูลในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องของการแจ้งเบาะแสจากประชาชน ยังเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการซึ่งจากการขึ้นป้ายประชาสัมพันธ์พบว่า ประชาชนให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสเข้ามาจำนวนมากทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลในการนำไปสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้ต้องหาต่อไป
พล.ต.ท.ก่อเกียรติ ยังได้กล่าวต่อไปถึงความคืบหน้าการนำรถตรวจยาเสพติดมาประจำที่ด่านตรวจภูเก็ตเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเสนอของบประมาณไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าได้มาก็จะเป็นคันที่ 2 ในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนเรื่องของกล้องซีซีทีวีแบบอ่านป้ายทะเบียนรถนั้นกำลังอยู่ระหว่างการประสานงานเช่นเดียวกันถ้าได้มาก็จะช่วยในเรื่องของการตรวจสอบคดียาเสพติดได้เป็นอย่างดี
วันนี้ (19 มี.ค.) พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 กล่าวที่จังหวัดภูเก็ตถึงผลสำเร็จในการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติดในพื้นที่ความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่ง ประกอบด้วย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ชุมพร ว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 21 ธ.ค 53- 15 มี.ค. 54 ในส่วนของตำรวจภูธรภาค8 สามารถจับผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดียาเสพติดได้เกินเป้าหมายที่กำหนดไว้
ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดียาเสพติดทั้งผู้ค้ารายใหญ่ ผู้ค้ารายย่อย ผู้เสพ ได้แล้ว จำนวน 4,900 คน ยึดทรัพย์ผู้ค้ารายใหญ่รายย่อยกว่า 18 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมาพบว่ายอดการจับกุมเพิ่มขึ้นเกือบ100% นอกจากนั้น ในส่วนของการนำผู้เสพเข้าสู่ระบบบำบัดสามารถทำได้จำนวนมากเช่นกัน โดยขณะนี้มีผู้เสพที่เข้าสู่ระบบบำบัดแล้วกว่า 2,000 คน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการระดมกำลังกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่ความรับผิดชอบได้เกินเป้าที่วางไว้ แต่ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกจังหวัดดำเนินการกวาดล้างยาเสพติดอย่างเข้มงวดต่อไป โดยเน้นไปที่การสืบค้นเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี โดยอาศัยฐานข้อมูลในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องของการแจ้งเบาะแสจากประชาชน ยังเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการซึ่งจากการขึ้นป้ายประชาสัมพันธ์พบว่า ประชาชนให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสเข้ามาจำนวนมากทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลในการนำไปสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้ต้องหาต่อไป
พล.ต.ท.ก่อเกียรติ ยังได้กล่าวต่อไปถึงความคืบหน้าการนำรถตรวจยาเสพติดมาประจำที่ด่านตรวจภูเก็ตเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเสนอของบประมาณไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าได้มาก็จะเป็นคันที่ 2 ในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนเรื่องของกล้องซีซีทีวีแบบอ่านป้ายทะเบียนรถนั้นกำลังอยู่ระหว่างการประสานงานเช่นเดียวกันถ้าได้มาก็จะช่วยในเรื่องของการตรวจสอบคดียาเสพติดได้เป็นอย่างดี