ภูเก็ต-จับแล้วทีมสังหารนักธุรกิจชาวอิตาลีหุ้นส่วนร้านอาหารบนเกาะพีพีหลังคนร้ายยิงถล่มเสียชีวิตที่จังหวัดภูเก็ตพบเป็นชาวต่างชาติหุ้นร้านอาหารเดียวกันสั่งฆ่าแต่ยังให้การปฏิเสธ
วันนี้ (19 มี.ค.) พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 พร้อมด้วยพล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค8 ชุดสืบสวนตร.จังหวัดภูเก็ต ชุดสืบสวนสถานีตร.ถลาง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีคนร้ายสังหารโหดนาย Luciano Butti นักธุรกิจชาวอิตาลี หุ้นส่วนร้านอาหารบนเกาะพีพี จ.กระบี่ เสียชีวิตคาที่ ที่บริเวณริมถนนหมู่ที่3 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นหุ้นส่วนร้านอาหารเดียวกันกับผู้ตายและเป็นเพื่อนกันโดยมีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งจ้างวาน ประสานงาน จัดหามือปืน และมือปืนรวม 7 คน
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวมาได้แล้วจำนวน 4 คน ประกอบด้วยชาวอิตาลีซึ่งเป็นหุ้นส่วนร้านอาหารบนเกาะพีพี โดยขณะนี้ยังให้การปฏิเสธ นายประสงค์ ยงกิจ โดยทั้ง 2คนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ที่ จ.กระบี่ ส่วนอีก2 คนเจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะกบดานอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต คือนายสมชาย กล้าศึก และนายรัชชานนท์ สะวารี พร้อมด้วยของกลางรถเก๋งป้ายทะเบียน จ-0834 กรุงเทพมหานครจำนวน1คัน รถจักรยานยนต์จำนวน2 คัน ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 คน รวมทั้งในส่วนของคนยิงนั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับแล้วและกำลังอยู่ระหว่างติดตามจับกุม
พล.ต.ท.ก่อเกียรติ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าประเด็นการสังหารโหดในครั้งนี้เกิดจากความขัดแย้งที่ผู้จ้างวานถูกฉ้อโกงเงินจำนวนหลายล้านบาท จึงให้ผู้ต้องหาที่เป็นลูกจ้างที่ทำงานในร้านอาหารติดต่อหามือปืนมาฆ่าผู้ตาย หลังจากนั้นได้ติดต่อประสานงานจนได้มือปืนมาทำงานในครั้งนี้ โดยตกลงว่าจ้างกัน โดยกลุ่มมือปืนพยายามที่จะก่อเหตุที่เกาะพีพีแต่ไม่มีโอกาส เมื่อทราบว่าผู้ตายเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตเพื่อขึ้นศาล จึงติดตามมา โดยทีมสังหารได้โทรศัพท์นัดให้ผู้ตายออกไปรับประทานอาหารด้วยกันที่ร้านอาหารในพื้นที่อ่าวปอ ต.ป่าคลอก หลังจากนั้นได้นายสมชายได้ขับรถเก๋งโดยมีนายประสงค์นั่งมาด้วยไปหาผู้ตายที่โรงแรมที่พัก และขับรถนำผู้ตายไปที่อ่าวปอ โดยมีผู้ต้องหาอีกส่วนหนึ่งขับรถจักยานยนต์ตามไป 2 คัน เมื่อถึงอ่าวปอผู้ตายได้ขับรถกลับเส้นทางเดิมผู้ต้องหาที่ขับรถจักรยานยนต์ได้ขับรถจักรยานยนต์ที่มีมือปืนซ้อนท้ายกลับมาเมื่อถึงที่เกิดเหตุคนซ้อยท้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี