ยะลา - “ผบช.ศชต.” ชี้จากสถานการณ์ที่รุนแรงในพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่มีการเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการเชิงรุก โดยเฉพาะการดูแลย่านการค้าในเมืองยะลาที่เป็นโซนความปลอดภัยได้ระดมกำลังจากนอกเมืองมาเพิ่ม ขณะที่คดีปล้นร้านทอง ใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส คืบหน้าไปมาก
วันนี้ (18 มี.ค.) เวลา 08.30 น.ที่อาคารอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ.สุขยางค์ ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ว่า จากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนเองได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกระดับชั้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชุมตลอดเวลาว่าในพื้นที่เกิดเหตุการณ์อะไรบ้าง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่เกิดเหตุการณ์ค่อนข้างที่จะรุนแรงหลายเหตุ
ทั้งนี้ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ลงมาในพื้นที่ด้วยตนเอง เพื่อมารับทราบข้อมูลต่างๆ อยู่เป็นประจำ ในส่วนนี้ทุกคนคงทราบอยู่แล้ว กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบพยายามที่จะหาช่องว่างและโอกาสก่อเหตุร้ายในพื้นที่อยู่ตลอดเวลา ในฐานะที่ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ต้องมีการป้องกันอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังมีเหตุร้ายเกิดขึ้น โดยเฉพาะเกิดขึ้นในเขตเมือง เขตชุมชนหลายครั้ง เช่น ในเขตเทศบาลนครยะลา เกิดระเบิดขึ้นถึง 2 ครั้ง ที่มีการประกอบระเบิดในรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในตัวเมืองนราธิวาส และ อ.ศรีสาคร ล่าสุดก็มีการปล้นร้านทองใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
ได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่โดยตลอดว่า ในช่วงนี้ต้องมีการใช้มาตรการในเชิงรุกให้มาก ตรวจสอบสิ่งปกติทั้งหลายในพื้นที่ เพิ่มกำลังในเขตพื้นที่เมืองและเขตชุมชน ซึ่งได้มีการสั่งการโดยตรงในการประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์กับหัวหน้าสถานีตำรวจในช่วงเช้า และตนเองได้สั่งไปถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด
สำหรับความคืบหน้าในคดีกลุ่มคนร้ายปล้นร้านทองใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นั้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อาวุธปืนสั้น และปืนยาว จำนวน 9 กระบอก เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามตรวจสอบเพื่อจะเชื่อมโยงหากลุ่มคนร้าย ซึ่งในขณะนี้คาดว่าน่าจะทราบผลการตรวจสอบอาวุธปืนบางส่วนแล้ว ส่วนทางการสืบสวนก็ได้มีการดำเนินการอยู่ ใช้ในเรื่องของวัตถุพยาน รวมทั้งพยานบุคคล ขณะนี้คืบหน้าไปมากแล้ว ส่วนการออกหมายจับนั้นในขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้นั้น ซึ่งตนเองไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี แต่พอที่จะรู้เส้นทางแล้วว่าเป็นกลุ่มไหน
สำหรับการตั้งจุด SAFE ZONE ในย่านการค้าในเขตเทศบาลนครยะลานั้น ตนเองได้รับข้อมูลจาก พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลาแล้ว ถือเป็นสิ่งที่ดีที่มีการปรับกำลังที่อยู่ด้านนอกเข้ามาเสริมด้านในใจกลางเมือง ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนเองได้ส่งกำลังเพิ่มเติมไปช่วยเสริมอีกแรง ซึ่งกำลังได้ลงไปในพื้นที่ไปแล้ว
โดยทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลามีการวางแผนในการปิดช่องว่างต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจหลักของ จ.ยะลา เพื่อต้องการให้พี่น้องประชาชนได้ประกอบอาชีพได้อย่างปกติสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ก็จะมีการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่
