นราธิวาส - 7 คนร้ายหยามตำรวจโก-ลก บุกปล้นร้านทองใจกลางเมือง ใช้ปืนอาก้ายิงเจ้าของร้านและยามตายคาที่ 2 ศพ เจ็บอีก 4 ซึ่งเป็นเจ้าของและญาติร้านทองทั้งสิ้น
วันนี้ (14 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.20 น. ร.ต.ท.ราม จันสุพลพจน์ ร้อยเวร สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกปล้นร้านจำหน่ายทองรูปพรรณ และยิงเจ้าของร้านรวมทั้งยามเสียชีวิต 2 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ปรีชา กิ้มเกลี้ยง สว.ป.สภ.สุไหงโก-ลก รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่บริเวณหน้าร้านทองเลี่ยวอา เลขที่ 64 ถ.บุษยพันธ์ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ทราบชื่อคือ นายจิตติ ปลื้มใจ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นยาม มีบาดแผลถูกอาวุธปืนสงครามอาก้า และเอ็ม 16 พรุนไปทั้งร่าง นอกจากนี้ภายในร้านทองเลี่ยวอา เจ้าหน้าที่ยังพบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ทราบชื่อคือ นายวิชัย ศรีทักษินาคุณ เจ้าของร้านทอง ถูกกระสุนปืนของคนร้ายชนิดและขนาดเดียวกันพรุนไปทั้งร่างเช่นกัน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 คน พลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลสุไหงโก-ลกไปก่อนหน้าแล้ว
จากการตรวจสอบร้านเลี่ยวอา เจ้าหน้าที่พบว่าตู้กระจกที่ตั้งไว้สำหรับใส่ทองรูปพรรณ ถูกคนร้ายทุบด้วยบั้นท้ายปืนและถูกกระสุนปืนของคนร้ายแตกละเอียด และมีร่องรอยถูกคนร้ายหยิบทองรูปพรรณที่ตั้งโชว์ไว้ภายในตู้โชว์หายไปเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ที่บริเวณร้านทองยงตุ้นซึ่งอยู่ติดกันเลขที่ 60 มีกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่ภายในร้าน และบริเวณฝาผนังมีร่องรอยถูกกระสุนปืนของคนร้ายเป็นรูพรุนจำนวนหลายแห่ง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิธารน้ำใจสุไหงโก-ลก นำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปดูอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลทราบชื่อ คือ 1. นางมาลี ศรีทักษินาคุณ ภรรยานายวิชัย เจ้าของร้านทองเลี่ยวอา 2.นายวิชิต ศรีทักษินาคุณ น้องชายนายวิชัย 3.นายชัยณรงค์ ปาปะเข เจ้าของร้านทองยงตุ้น และ 4.นายวุฒิกรณ์ จิตตะนาโชติ ญาติของนายชัยณรงค์ ซึ่งทั้ง 4 รายถูกกระสุนปืนของคนร้ายตามบริเวณลำตัว อาการสาหัสแพทย์ต้องทำการปฐมพยาบาลอย่างเร่งด่วน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย 7 คนใช้รถยนต์เก๋งมาสด้า สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมวดอักษร หมายเลขทะเบียน 970 ไม่ทราบจังหวัด เป็นพาหนะ เมื่อถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้เปิดประตูวิ่งกรูออกมาจากรถ แยกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ แล้วใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 อาก้า และปืนกลอูซี่ ยิงใส่นายจิตติซึ่งเป็นยามหน้าร้านทองเลี่ยวอา และยิงใส่นายวิชัยเจ้าของร้านเลี่ยวอาเสียชีวิต ก่อนที่จะหยิบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ซูเปอร์จากเอวของนายจิตจิ
ส่วนคนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งได้ใช้อาวุธชนิดและขนาดเดียวกันยิงใส่ร้านทองยงตุ้น ซึ่งอยู่ติดกันจนทำให้นายชัยณรงค์เจ้าของร้านทองยงตุ้น และนายวุฒิกรณ์ ซึ่งเป็นญาติได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายที่บุกปล้นร้านทองเลี่ยวอา ได้ใช้บั้นท้ายปืนตีลงไปที่กระจกตู้โชว์ทองรูปพรรณ ซึ่งตั้งไว้ที่บริเวณหน้าร้านจนแตก ก่อนที่คนร้ายจะหยิบทองรูปพรรณไปเป็นจำนวนมากหลบหนีวิ่งขึ้นรถยนต์เก๋งที่จอดติดเครื่องอยู่หน้าร้านหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.ท.ปรีชา กิ้มเกลี้ยง สว.ป.สภ.สุไหงโก-ลก ได้ประสานไปยังศูนย์สื่อสาร สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อแจ้งสกัดจับกลุ่มคนร้ายที่คาดว่าน่าจะหลบหนีไปทางถนนที่มุ่งสู่อำเภอสุไหงปาดีและอำเภอแว้ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอทำการตรวจสอบดูภาพวงจรปิดที่บันทึกเอาไว้ได้ว่าคนร้ายกลุ่มนี้เป็นใคร และเคยก่อเหตุในลักษณะนี้เมื่อกลางปี พ.ศ. 2552 หรือไม่อย่างไร
วันนี้ (14 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.20 น. ร.ต.ท.ราม จันสุพลพจน์ ร้อยเวร สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกปล้นร้านจำหน่ายทองรูปพรรณ และยิงเจ้าของร้านรวมทั้งยามเสียชีวิต 2 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ปรีชา กิ้มเกลี้ยง สว.ป.สภ.สุไหงโก-ลก รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่บริเวณหน้าร้านทองเลี่ยวอา เลขที่ 64 ถ.บุษยพันธ์ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ทราบชื่อคือ นายจิตติ ปลื้มใจ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นยาม มีบาดแผลถูกอาวุธปืนสงครามอาก้า และเอ็ม 16 พรุนไปทั้งร่าง นอกจากนี้ภายในร้านทองเลี่ยวอา เจ้าหน้าที่ยังพบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ทราบชื่อคือ นายวิชัย ศรีทักษินาคุณ เจ้าของร้านทอง ถูกกระสุนปืนของคนร้ายชนิดและขนาดเดียวกันพรุนไปทั้งร่างเช่นกัน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 คน พลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลสุไหงโก-ลกไปก่อนหน้าแล้ว
จากการตรวจสอบร้านเลี่ยวอา เจ้าหน้าที่พบว่าตู้กระจกที่ตั้งไว้สำหรับใส่ทองรูปพรรณ ถูกคนร้ายทุบด้วยบั้นท้ายปืนและถูกกระสุนปืนของคนร้ายแตกละเอียด และมีร่องรอยถูกคนร้ายหยิบทองรูปพรรณที่ตั้งโชว์ไว้ภายในตู้โชว์หายไปเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ที่บริเวณร้านทองยงตุ้นซึ่งอยู่ติดกันเลขที่ 60 มีกองเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่ภายในร้าน และบริเวณฝาผนังมีร่องรอยถูกกระสุนปืนของคนร้ายเป็นรูพรุนจำนวนหลายแห่ง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิธารน้ำใจสุไหงโก-ลก นำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปดูอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลทราบชื่อ คือ 1. นางมาลี ศรีทักษินาคุณ ภรรยานายวิชัย เจ้าของร้านทองเลี่ยวอา 2.นายวิชิต ศรีทักษินาคุณ น้องชายนายวิชัย 3.นายชัยณรงค์ ปาปะเข เจ้าของร้านทองยงตุ้น และ 4.นายวุฒิกรณ์ จิตตะนาโชติ ญาติของนายชัยณรงค์ ซึ่งทั้ง 4 รายถูกกระสุนปืนของคนร้ายตามบริเวณลำตัว อาการสาหัสแพทย์ต้องทำการปฐมพยาบาลอย่างเร่งด่วน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย 7 คนใช้รถยนต์เก๋งมาสด้า สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมวดอักษร หมายเลขทะเบียน 970 ไม่ทราบจังหวัด เป็นพาหนะ เมื่อถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้เปิดประตูวิ่งกรูออกมาจากรถ แยกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ แล้วใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 อาก้า และปืนกลอูซี่ ยิงใส่นายจิตติซึ่งเป็นยามหน้าร้านทองเลี่ยวอา และยิงใส่นายวิชัยเจ้าของร้านเลี่ยวอาเสียชีวิต ก่อนที่จะหยิบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ซูเปอร์จากเอวของนายจิตจิ
ส่วนคนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งได้ใช้อาวุธชนิดและขนาดเดียวกันยิงใส่ร้านทองยงตุ้น ซึ่งอยู่ติดกันจนทำให้นายชัยณรงค์เจ้าของร้านทองยงตุ้น และนายวุฒิกรณ์ ซึ่งเป็นญาติได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายที่บุกปล้นร้านทองเลี่ยวอา ได้ใช้บั้นท้ายปืนตีลงไปที่กระจกตู้โชว์ทองรูปพรรณ ซึ่งตั้งไว้ที่บริเวณหน้าร้านจนแตก ก่อนที่คนร้ายจะหยิบทองรูปพรรณไปเป็นจำนวนมากหลบหนีวิ่งขึ้นรถยนต์เก๋งที่จอดติดเครื่องอยู่หน้าร้านหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.ท.ปรีชา กิ้มเกลี้ยง สว.ป.สภ.สุไหงโก-ลก ได้ประสานไปยังศูนย์สื่อสาร สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อแจ้งสกัดจับกลุ่มคนร้ายที่คาดว่าน่าจะหลบหนีไปทางถนนที่มุ่งสู่อำเภอสุไหงปาดีและอำเภอแว้ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอทำการตรวจสอบดูภาพวงจรปิดที่บันทึกเอาไว้ได้ว่าคนร้ายกลุ่มนี้เป็นใคร และเคยก่อเหตุในลักษณะนี้เมื่อกลางปี พ.ศ. 2552 หรือไม่อย่างไร
