ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ระบุปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นปัญหาที่ซ่อนอยู่ภายในบ้านไม่ค่อยได้รับการเปิดเผย จี้ทุกฝ่ายร่วมแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ พร้อมเดินหน้าสร้างความเข้าใจให้ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ปฏิบัติการให้เป็นศูนย์นำร่อง
วันนี้ (9 มี.ค.) นายปัญญา เลิศไกร รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กล่าวในการเปิดสัมมนา “ซักซ้อมความเข้าใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ปฏิบัติการเพื่อเป็นศูนย์นำร่อง” ภาคใต้ ซึ่งสำนักงานกิจการสตรีและครอบครัวจังหวัดที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้ปฏิบัติงานจาก 14 จังหวัดภาคใต้เข้าร่วมว่า สำหรับปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและสตรี และความรุนแรงในครอบครัวในสังคมไทยนั้นมีมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี เป็นปัญหาใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในบ้านของประชาชนทั่วประเทศรวมถึงทั่วโลก ผู้ที่กระทำความรุนแรงต่อเด็กและสตรีส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิด เป็นสามี ซึ่งในแต่ละปีพบว่ามีเด็กและสตรีถูกทำร้ายร่างกาย จิตใจ เพิ่มขึ้นทุกปี และจากสถิติของศูนย์พึ่งได้กระทรวงสาธารณสุขพบว่าในปี 2552 มีเด็กและสตรีถูกทำร้ายมากถึง 23,522 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 64 ราย ในจำนวนนั้นพบว่าเป็นเด็กที่ถูกทำร้ายมาก 53% และส่วนที่เหลือเป็นการกระทำต่อสตรี
นายปัญญากล่าวต่อไปว่า ในจำนวนคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมดพบว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย 49% ละเมิดทางเพศ 43% และอีก 18% เป็นการทำร้ายทางจิตใจ ซึ่งปัญหาความรุนแรงในครอบครัวไม่ได้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะประเทศไทย หรือจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ปัญหาดังกล่าวจะซ่อนอยู่ภายในบ้านไม่ค่อยได้รับการเปิดเผย เนื่องจากทัศนคติและความเชื่อที่ว่า ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัวคนภายนอกไม่ควรเข้าไปยุ่ง เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องร่วมกันแก้ไขโดยดำเนินการที่มาตรการต้นเหตุ คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ถูกกระทำ และช่วยเหลือผู้ถูกกระทำ และกำหนดให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์การกระทำความรุนแรงมีหน้าที่ต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่
นายปัญญากล่าวต่อไปว่า ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัวเป็นต้นตอปัญหาอื่นๆ ที่ตามมาอีกหลายปัญหาไม่ว่าจะเป็นปัญหาตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ปัญหาครอบครัวแตกแยกที่นำไปสู่การเป็นครอบครัวเดี่ยว ที่ปัจจุบันนี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งปัญหายาเสพติด และปัญหาอื่นๆ อีกจำนวนมาก