xs
xsm
sm
md
lg

ตร.จับสึก “พระห้วยยอด” กินเหล้า-ยิงหนังสติ๊กใส่เด็กเจ็บ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลวงแคล้ว พระบวชหน้าไฟกินเหล้าเมาก่อนใช้หนังสติ๊กไล่ยิงเด็ก
ตรัง - ผู้ปกครองแจ้งความหลวงแคล้ว พระลูกวัดเกาะฐาน จังหวัดตรัง ดื่มเหล้าเมาแล้วใช้หนังสติ๊กยิงหนูน้อยวัย 6 ขวบ จนได้รับบาดเจ็บ ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบพบเป็นความจริง และให้สึกจากผ้าเหลืองมารับโทษต่อไป

วันนี้ (5 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. นางฐณัชฌา พรหมสะอาด อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/70 ถ.เพลินพิทักษ์ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ภูมิลำเนาเดิมอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 44 ม.5 ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง พร้อมกับ เด็กชายพรหมพิริยะ หรือ น้องออร์แกน พรหมสะอาด วัย 6 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนปัญญาวิทย์ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบุตรชาย และนายเสนอ อ่อนปล้อง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/2 ม.5 ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นบิดาและเป็นคุณตาของน้องออร์แกนได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ประทีป อำพะวัน ร้อยเวรสอบสวน สภ.ห้วยยอด ว่า บุตรชายคือ น้องออร์แกน ถูกหลวงแคล้วซึ่งเป็นพระลูกวัดเกาะฐาน ม.3 ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ทำร้ายร่างกายด้วยการยิงด้วยหนังสติ๊ก จนได้รับบาดเจ็บบริเวณสีข้างด้านซ้าย

อย่างไรก็ตาม ต่อมาในการสอบปากคำน้องออร์แกนนั้น นางมยุรี ลัคนาศิโรรัตน์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ทำหน้าที่ตำแหน่งนักจิตวิทยา โรงพยาบาลห้วยยอด ได้รับเชิญจากพนักงานสอบสวนให้เข้าร่วมสอบปากคำ ตามกระบวนการของกฎหมายด้วย

นางฐณัชฌา คุณแม่ของน้องออร์แกน ให้การว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันที่ 3 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ระหว่างที่บุตรชาย พร้อมเพื่อนชายหญิงรวมประมาณ 5 คน วิ่งแล่นกันอยู่บริเวณลานวัดใกล้ศาลาวิหารตาสอน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด โดยที่ผู้ปกครองของเด็กอยู่ระหว่างช่วยงาน และต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานศพของญาติ ปรากฎว่า จู่ๆ เด็กก็วิ่งหนีกระเจิดกระเจิง และไปหาพ่อแม่ที่ศาลาโรงเลี้ยงอาหาร พร้อมกับร้องตะโกนว่าถูกพระยิงด้วยหนังสติ๊ก และน้องออร์แกน ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้น ทุกคนจึงวิ่งตามหา และไปพบ น้องออร์แกนนั่งซุกตัวร้องไห้หลบอยู่ใต้เก้าอี้ที่ทางญาติเก็บซ้อนๆ รวมกันไว้

เมื่อสอบถามได้ความว่า ถูกพระรูปหนึ่งภายในวัดยิงกราดด้วยหนังสติ๊ก จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกกระสุนเฉียดศีรษะเด็กในกลุ่มไปนิดเดียว แต่ครั้งที่ 2 ถูกตัวน้องออร์แกน และเมื่อตรวจดูพบว่า มีรอยเขียวช้ำเท่ากับก้อนหินที่ยิงจากหนังสติ๊กที่บริเวณลำตัวด้านซ้าย คุณแม่และญาติๆ จึงเดินไปถามหลวงแคล้วว่า ยิงเด็กทำไม ทำไมไม่ตักเตือนดีๆ และถ้ากระสุนถูกลูกตาเด็กจะทำอย่างไร

แต่สิ่งที่ญาติๆ ได้ฟังจากปากพระ ที่ขณะนั้นมีลักษณะนัยตาแดงก่ำ และมีกลิ่นเหล้าคละคลุ้งโดยบอกว่า เด็กขึ้นไปเล่นที่ศาลาวิหารตาศร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด เมื่อตนได้ยินจึงออกจากกุฏิพร้อมนำหนังสติ๊กมาด้วยก็พบเด็กลงมาเล่นทรายอยู่ที่ลานวัดแล้ว จึงยิงด้วยหนังสติ๊กจริง แต่เพื่อไล่และสั่งสอนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นหลวงแคล้ว ก็ยังคงพูดจาไม่ดี และเสียงดังด้วยฤทธิ์สุรา พร้อมกับไล่แม่เด็กให้ออกไป อย่ามายุ่ง จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. นางฐณัชฌา จึงตัดสินในนำลูกชายไปที่ สภ.ห้วยยอด เพื่อแจ้งความ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปที่วัดเกาะฐาน เพื่อพูดจาว่ากล่าวตักเตือน แต่หลวงแคล้วก็ยังพูดจาหยาบคายต่อว่าแม่เด็กต่างๆ นานา ดังนั้น นางฐณัชฌา จึงต้องนำลูกชายเข้าแจ้งความอีกครั้ง เพื่อเอาผิดกับพระรูปดังกล่าว ในข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมกับเรียกค่าทำขวัญเด็กด้วย

หลังรับแจ้งความแล้ว ร.ต.อ.ประทีป พร้อมด้วยนักจิตวิทยา จึงได้เดินทางไปที่วัดเกาะฐาน เพื่อให้เด็กชี้จุดเกิดเหตุ และชี้ว่าพระยิงมาจากมุมไหน โดยน้องออร์แกน เล่าว่า ตนกับเพื่อนไม่ได้เล่นซนในศาลาตาศร เพียงแต่ตนได้ร่วมเสี่ยงเซียมซี เมื่อเขย่าเซียมซีจึงเกิดเสียงดัง จากนั้นก็ลงไปที่ลานวัด จึงถูกพระยิงจากมุมศาลาเรือนไม้ชั้นเดียว ซึ่งอยู่ห่างจากเด็กประมาณ 20 เมตร

จากนั้นพนักงานสอบสวน จึงได้พบกับหลวงแคล้ว หรือมีชื่อจริงว่า นายแคล้ว ศรีเพ็ญ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 ม.8 ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเพิ่งจะบวชหน้าไฟให้กับหลานสาวที่เสียชีวิตมาได้ประมาณ 3 เดือน และยังไม่มีฉายาทางพระ โดยได้สารภาพต่อพนักงานสอบสวนว่า ยิงเด็กจริง เพื่อสั่งสอน เพราะเด็กวิ่งเล่นซน แต่ยิงแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่ 2 ครั้ง อย่างที่ถูกกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม เมื่อพนักงานสอบสวนถามว่า ตอนยิงหนังสติ๊กได้ดื่มเหล้าจนเมาด้วยใช่ไหม ทำให้หลวงแคล้วอึ้งไปนาน แต่สุดท้ายก็ยอมรับอย่างอ้ำอึ้งว่า ดื่มหลังยิงเด็กแล้ว ก่อนที่จะไปนำหนังสติ๊กอาวุธที่ใช้ยิงเด็กมาให้พนักงานสอบสวนเพื่อตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมทั้งได้เล่าลำดับขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้หลวงแคล้ว ฟังว่า มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายเด็ก

ดังนั้น จึงต้องไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.ห้วยยอด เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา แต่การจะไปรับทราบข้อกล่าวหาได้จะต้องลาสิกขาบท หรือสึกก่อน แต่หากไม่ยอมไปพบพนักงานสอบสวน ก็จะต้องมีการออกหมายจับต่อไป ในที่สุดหลวงแคล้วจึงยอมรับผิด และบอกว่าจะให้พระอาจารย์ดูฤกษ์ในการลาสิกขาบทให้เร็วที่สุด เสร็จแล้วจะไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และรอทำข่าวที่ สภ.ห้วยยอด ได้มี พระครูวิริยกิจโสภิต เจ้าอาวาสวัดน้ำพราย และเจ้าคณะตำบลเขากอบ เดินทางไปรอพบเจ้าทุกข์ตามที่ได้รับแจ้งประสาน จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง ด้วย โดย พระครูวิริยกิจ พูดแต่เพียงว่าเรื่องนี้ตนเองเคลียร์ปัญหาได้ ขอให้เจ้าทุกข์ไม่แจ้งความเอาผิด เพราะจะทำให้วงการพระสงฆ์ในจังหวัดตรังเสียหาย และจะทำให้ชื่อเสียงของวัดเกาะฐานเสียหาย จะไม่มีใครเข้าไปทำบุญในวัด พร้อมกับไม่อนุญาตให้นำเสนอข่าวด้วย หลังจากนั้น พระครูวิริยกิจโสภิต จึงได้เดินทางกลับไป
ของกลาง








กำลังโหลดความคิดเห็น