ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ปู่วาเด็งพระสหายของในหลวงแห่งลุ่มน้ำสายบุรีอาการทรุดหนัก เข้าพัก มอ.หาดใหญ่เป็นวันที่ 5 แล้ว โดยแพทย์วินิจฉัยพบโรคแทรกซ้อนอีก 2 ชนิด บอกญาติทำใจหากฝืนรักษายิ่งเสี่ยงต่อการเสียชีวิต และเตรียมย้ายกลับบ้านเกิด จ.ปัตตานี เพื่อดูใจ
ภายหลังจากที่นายวาเด็ง ปูเต๊ะ หรือ ปู่วาเด็ง พระสหายแห่งสายบุรี วัย 95 ปี ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกอายุรกรรมชาย ชั้น 9 โรงพยาบาลสงขลานครินทร์หาดใหญ่ เป็นวันที่ 5 หลังจากเข้ามารับการรักษาตัวด้วยโรคหัวใจตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา
วันนี้ (4 มี.ค.) นพ.สิริชัย ชีวธนากรณ์กุล แพทย์เจ้าของไข้ เปิดเผยว่า ปู่วาเด็งป่วยเป็นโรคหัวใจและจะเข้ามารับการตรวจเช็คร่างกายกับทางโรงพยาบาลเป็นจำประจำทุกปี แต่ในครั้งนี้หลังจากทีมแพทย์วินิจฉัยอย่างละเอียดแล้วพบว่า ได้มีโรคแทรกซ้อนอีก 2 อย่าง คือ โรคไตวายระยะสุดท้าย และโรคเส้นเลือดโป่งพองใกล้หัวใจ ทำให้อาการของปู่วาเด็งทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด
ขณะนี้ทางแพทย์ได้ให้ยากระตุ้นหัวใจ เนื่องจากอัตราการเต้นของหัวใจของปู่วาเด็งต่ำมาก เพียงแค่ 20 ครั้งต่อนาที จากอัตราการเต้นหัวใจของคนปกติที่ 80 ครั้งต่อนาที
ส่วนการฟอกไต เพื่อรักษาอาการไตวายนั้นไม่สามารถทำได้ เพราะจะทำให้หัวใจเต้นเร็วและแรงกว่าปกติ ประกอบกับปู่วาเด็งป่วยเป็นโรคหัวใจ และเส้นเลือดโป่งพองใกล้หัวใจด้วยแล้ว อาจจะทำให้ถึงขั้นช็อค และเสียชีวิตได้ ซึ่งเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
อย่างไรก็ตาม แม้อาการโดยรวมถือว่าทรุดหนักกว่าก่อนมาก แต่ตัวของปู่วาเด็งเองยังมีกำลังใจดี ถึงแม้ว่าอายุจะมากแล้ว ซึ่งทางแพทย์อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาลปัตตานีได้ในเร็วๆนี้ ตามที่ผู้ป่วยและญาติต้องการ เพื่อให้ลูกหลานได้มีเวลาแวะเวียนมาเยี่ยมเยียน และดูแลปู่วาเด็งได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
ด้าน น.ส.ซารีนา เวาะฮะ หลานสาวของปู่วาเด็ง กล่าวว่า ปู่วาเด็งบ่นคิดถึงบ้าน และลูกหลานทุกคนมาก อยากที่จะกลับไปพักรักษาตัวที่ปัตตานีเร็วๆ ซึ่งตนและญาติกำลังประสานขอรถพยาบาลจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ให้ช่วยส่งตัวปู่วาเด็งกลับไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลปัตตานีในเร็ววันนี้ ขณะนี้ญาติทุกคนก็ต้องทำใจ และใช้เวลาอยู่กับปู่วาเด็งให้คุ้มค่ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้