ยะลา - หน่วยข่าวความมั่นคงแจ้งเตือนคนร้ายเตรียมอาร์พีจี 2 กระบอกก่อเหตุป่วนยะลา ขณะที่ตำรวจสเกตช์ภาพมือกดระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์ใจกลางเมืองยะลาวานนี้ (21 ก.พ.) ได้แล้ว คาดเป็นกลุ่มเดียวกับเหตุคาร์บอมบ์ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 8 ราย สาหัส 1 อยู่ห้องปลอดเชื้อ ที่เหลือพ้นขีดอันตรายแล้ว
หน่วยความมั่นคงได้วิทยุแจ้งเตือนให้กับหน่วยกำลังในพื้นที่ว่า ฐานการข่าวทหาร รายงานมาว่า กลุ่มคนร้ายได้นำเครื่องยิงระเบิดลูกระเบิดอาร์พีจี จำนวน 2 กระบอก เข้ามาในเขตรอยต่อ ต.บันนังสาเร็ง อ.เมืองยะลา กับตำบลปุโรง อ.กรงปินัง จ.ยะลา เพื่อเตรียมการก่อเหตุลอบยิงขบวนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่บนถนนสายยะลา-เบตง ช่วง อ.กรงปินัง กับ อ.เมืองยะลา และยิงถล่มฐานปฏิบัติการย่อย ประจำสถานีโรงไฟฟ้าย่อยบ้านพงยือไร ต.บันนังสาเร็ง และเสาไฟฟ้าริมถนน เพื่อดับไฟทั่วเมืองโดยให้เฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ ในช่วงระหว่างเวลา 21.00-24.00 น.
นอกจากนี้ หน่วยทหารยังได้แจ้งเตือนให้กำลังพลเฝ้าสังเกตสิ่งบ่งบอกผิดปกติ คือ มีบุคคลแปลกหน้าขับรถวนเวียนผิดสังเกต ร้านค้าในบริเวณเป้าหมายมีการปิดร้านโดยไม่มีสาเหตุ และมีจำนวนรถยนต์ จักรยานยนต์ ออกมาวิ่งมีจำนวนน้อยลง
สำหรับความคืบหน้าอาการบาดเจ็บจากกรณีเหตุระเบิดหน้าร้านทองรุ่งอนันต์ ใกล้กับห้างซุปเปอร์ดีพาร์ทเม้นสโตร์ ถนนระนอง ใจกลางเมืองยะลา เมื่อเย็นวานนี้ (21 ก.พ.) เป็นเหตุมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 16 ราย รถยนต์ตำรวจทางหลวงเสียหาย 1 คัน รถจักรยานยนต์ของชาวบ้านเสียหาย 26 คัน บ้านและทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่งนั้น ขณะนี้อาการบาดเจ็บของ นางวันเพ็ญ แซ่แต้ อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าสาป อ.เมืองยะลา ซึ่งถูกแรงระเบิดและไฟคลอกตามร่างกาย มีอาการสาหัส ต้องนอนรักษาตัวในห้องปลอดเชื้อของโรงพยาบาลศูนย์ยะลา โดยแพทย์ไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยม เกรงจะติดเชื้อ
ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ ขณะนี้ได้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา รวมทั้งสิ้น 7 ราย ประกอบด้วย จ.ส.ต.เสวก ชาลี อายุ 38 ปี ตำรวจทางหลวง กก.7 อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี นอนรักษาตัวที่ห้องศัลยกรรมชาย นายจรงค์ แก้วเขียว อายุ 44 อยู่บ้านเลขที่ 24 ถ.เทศบาล 1 อ.เมืองยะลา นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องศัลยกรรมชาย นายทรงธรรม อินทกาญจน์ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านเสริมการพิมพ์ อยู่ห้องหูคอจมูก น.ส.สุนิสา หงส์ประดิษฐ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 2 ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา จ.ยะลา อยู่ห้องศัลยกรรมหญิง นางกมลวรรณ สงแดง อยู่ห้องศัลยกรรมหญิง นางเศียนศิริ แก้วกระจ่าง อยู่ห้องศัลยกรรมหญิง ทั้งหมดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ยะลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำภาพจากวงจรปิดมาสเกตช์ภาพเพื่อขยายผลในการติดตามหาตัวคนร้าย เบื้องต้นทราบว่าเป็น นายอายุ ดอเลาะ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 4 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ จส.317/2552 ลงวันที่ 20 ก.ย.2552 ในความผิดคดีความมั่นคง ของ สภ.เมืองยะลา ตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี ผกก.เมืองยะลา ขออนุญาตศาลเพื่อออกหมายจับอีกข้อหาหนึ่ง
ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุได้ตรวจสอบวัตถุพยาน และภาพวงจรปิดพบว่า คนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์เงิน ที่บรรจุระเบิดไว้ในถังดับเพลิงขนาดเล็กซุกซ่อนไว้ในรถ นำมาจอดไว้รวมกับรถจักรยานยนต์หลายๆ คันของชาวบ้านที่จอดเรียงรายอยู่ก่อนกว่า 20 คัน ริมฟุตบาทหน้าร้านทองรุ่งอนันต์ หลังจากจอดเรียบร้อยแล้ว คนร้ายได้เดินออกไปทางหน้าร้านดาวเทียมที่อยู่ห่างกันประมาณ 20 เมตรแล้วมีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ป้ายแดง พาหลบหนี
ส่วนผู้ที่มีหน้าที่กดชนวนระเบิด คาดว่าจะเป็นอีกคน ที่เฝ้าดูในระยะที่มองเห็นเป้า และมีภาพปรากฏในวงจรปิดเห็นลักษณะและใบหน้าของคนที่กดอย่างชัดเจนและนำพยานที่เห็นเหตุการณ์มาให้ข้อมูลเพื่อสเกตซ์ภาพคนที่กดระเบิด จนทราบว่าเป็นนายอายุ ดอเลาะ ดังกล่าว สำหรับการกดชนวนระเบิดนั้น การตรวจสอบของชุดอีโอดีพบว่าคนร้ายใช้วิทยุสื่อสารในการกดชนวน
ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ มีการเชื่อมโยงกับการก่อเหตุคาร์บอมบ์ในวันอาทิตย์ที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่ามีการเข้ามาจากพื้นที่ ต.ท่าสาป เหมือนกัน ซึ่งขณะนี้ได้มีการตรวจสอบสะเก็ดระเบิดอย่างละเอียด เพื่อหาร่องรอยความเหมือนมาจากแหล่งผลิตที่เดียวกันหรือไม่ เนื่องจากเหตุคาร์บอมบ์กับเหตุระเบิดในหลายๆ จุด ในเขตเทศบาลนครยะลา พบว่าที่มาของสะเก็ดระเบิดมาจากแหล่งเดียวกันทั้งหมด จึงคาดว่าจะมีแหล่งผลิตอยู่ใกล้กับเขตเมืองยะลาแน่นอน
ส่วนมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยได้เพิ่มความเข้มมากขึ้น โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจการนำรถเข้าออกย่านการค้า และเจ้าของต้องนำเอกสารหลักฐานการครอบครองรถสามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ เมื่อมีการขอตรวจหากไม่มีจะทำการปรับและตรวจยึดเพื่อมาตรวจสอบในรายละเอียดเพื่อความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์ และขอความร่วมมือกับประชาชนให้ความร่วมมือ ในการแจ้งเบาะแสความผิดปกติให้กับเจ้าหน้าที่ทราบด่วนเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นอีก