ยะลา - เลขาธิการ ศอ.บต.เผย เจ้าหน้าที่สามารถคลี่คลายคดีด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะคดียิงชาวไทยพุทธที่ อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี ซึ่งสามารถจับกุมและวิสามัญคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว
นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายอาศิล พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนที่บ้านคอกกระบือ อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี ที่เคยเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงชาวไทยพุทธเสียชีวิต 5 ศพ ซึ่งพบว่า ที่บ้านคอกกระบือประชาชนมีความรักสามัคคีกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิม อยู่ร่วมกันโดยไม่มีความหวาดระแวง ซึ่งจุฬาราชมนตรีอยากให้มีบรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้น
“ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนที่อยู่ด้วยกันต้องสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้น อย่าติดกับดักหรือหลงกลแผนของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการให้คนมีความแตกแยก หรือหวาดระแวงต่อกัน” นายภาณุ กล่าวและว่า
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา การคลี่คลายคดีขณะนี้มีความก้าวหน้าไปอย่างมาก โดยทางเจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับ พร้อมจับกุม และมีการวิสามัญคนร้ายได้เกือบจะทั้งหมดแล้ว ในส่วนของคดีด้านความมั่นคงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อย่างคดีระเบิดที่เกิดขึ้นที่จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่ก็ติดตามสามารถเชื่อมโยงไปยังกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว จากข้อมูลที่ได้รับจะเห็นได้ว่าตัวเลขของคนที่ก่อเหตุในกลุ่มมีไม่กี่คน บางคนก็ถูกวิสามัญไปแล้ว บางคนก็สามารถที่จะติดตามตัว และออกหมายจับ ก็คงจะทำให้การก่อเหตุในพื้นที่ลดระดับลงมาได้ ทั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนในการแจ้งเบาะแส ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ
นายภาณุ ยังได้กล่าวถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ว่า นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายให้จุดตรวจต่างๆ มีการบูรณาการการทำงาน และตรวจสอบอย่างจริงจัง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด
โดยเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทางนายอำเภอร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ได้มีการตั้งจุดสกัดและสามารถจับยาบ้าได้ 60,000 เม็ด และสามารถขยายผลต่อไปจับได้ที่ อ.หาดใหญ่ อีก 90,000 เม็ด พร้อมเฮโรอีนอีก 2 กิโลกรัม พร้อมเงินสด รวมมูลค่าแล้วหลายล้านบาท
สำหรับคนที่ขับรถยนต์เก๋งที่จับได้นั้น เป็นคนในพื้นที่ อ.แว้ง อ.เมือง จ.นราธิวาส และ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยทั้งหมดได้รับสารภาพว่าขนยาเสพติดมาอย่างไร ซึ่งตนเองอยากให้ผู้บังคับบัญชาย้อนกลับไปดูว่า ยาเสพติดได้ขนมาจาก อ.หาดใหญ่ แล้วมาถูกจับที่ อ.ยะหริ่ง ซึ่งได้ผ่านจุดตรวจมากี่จุดและผ่านมาได้อย่างไร
นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายอาศิล พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนที่บ้านคอกกระบือ อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี ที่เคยเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงชาวไทยพุทธเสียชีวิต 5 ศพ ซึ่งพบว่า ที่บ้านคอกกระบือประชาชนมีความรักสามัคคีกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิม อยู่ร่วมกันโดยไม่มีความหวาดระแวง ซึ่งจุฬาราชมนตรีอยากให้มีบรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้น
“ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนที่อยู่ด้วยกันต้องสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้น อย่าติดกับดักหรือหลงกลแผนของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการให้คนมีความแตกแยก หรือหวาดระแวงต่อกัน” นายภาณุ กล่าวและว่า
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา การคลี่คลายคดีขณะนี้มีความก้าวหน้าไปอย่างมาก โดยทางเจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับ พร้อมจับกุม และมีการวิสามัญคนร้ายได้เกือบจะทั้งหมดแล้ว ในส่วนของคดีด้านความมั่นคงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อย่างคดีระเบิดที่เกิดขึ้นที่จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่ก็ติดตามสามารถเชื่อมโยงไปยังกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว จากข้อมูลที่ได้รับจะเห็นได้ว่าตัวเลขของคนที่ก่อเหตุในกลุ่มมีไม่กี่คน บางคนก็ถูกวิสามัญไปแล้ว บางคนก็สามารถที่จะติดตามตัว และออกหมายจับ ก็คงจะทำให้การก่อเหตุในพื้นที่ลดระดับลงมาได้ ทั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนในการแจ้งเบาะแส ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ
นายภาณุ ยังได้กล่าวถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ว่า นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายให้จุดตรวจต่างๆ มีการบูรณาการการทำงาน และตรวจสอบอย่างจริงจัง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด
โดยเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทางนายอำเภอร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ได้มีการตั้งจุดสกัดและสามารถจับยาบ้าได้ 60,000 เม็ด และสามารถขยายผลต่อไปจับได้ที่ อ.หาดใหญ่ อีก 90,000 เม็ด พร้อมเฮโรอีนอีก 2 กิโลกรัม พร้อมเงินสด รวมมูลค่าแล้วหลายล้านบาท
สำหรับคนที่ขับรถยนต์เก๋งที่จับได้นั้น เป็นคนในพื้นที่ อ.แว้ง อ.เมือง จ.นราธิวาส และ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยทั้งหมดได้รับสารภาพว่าขนยาเสพติดมาอย่างไร ซึ่งตนเองอยากให้ผู้บังคับบัญชาย้อนกลับไปดูว่า ยาเสพติดได้ขนมาจาก อ.หาดใหญ่ แล้วมาถูกจับที่ อ.ยะหริ่ง ซึ่งได้ผ่านจุดตรวจมากี่จุดและผ่านมาได้อย่างไร