“มาร์ค” พร้อมทบทวนแบ่งการทำงานตำรวจภูธร 9-10 คาดได้ข้อสรุปปรับโครงสร้างจันทร์นี้ ระบุ ระเบียบใหม่ ให้อำนาจ เลขา ศอ.บต.จัดการ เผยชื่อ “ภาณุ อุทัยรัตน์” นั่งเลขาฯ อ้าง เพื่อความเป็นเอกภาพในการทำงานในพื้นที่ เพื่อลดปัญหา ชี้ ไม่กระทบงบ กอ.รมน.
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแบ่งการทำงานของตำรวจภูธรภาค 9 ภาค 10 และในส่วนของประเด็นการพยายามสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้เจ้าหน้าที่โดยลักษณะในเรื่องของทวีคูณ เพราะต้องยอมรับว่า มีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจำนวนมากที่ท้วงติงมาในลักษณะของการไม่สมเจตนารมณ์ ซึ่งขณะนี้กำลังให้หลายๆ ฝ่ายช่วยดูในเชิงโครงสร้างอยู่
เมื่อถามถึงแนวความคิดของการยุบรวมระหว่างตำรวจภูธรภาค 9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในเรื่องของโครงสร้างกำลังให้ดูกันอยู่ ส่วนการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 ม.ค.ตนได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาตามกฎหมายใหม่ ซึ่งเราจะมีการประชุมคณะกรรมการตามกฎหมายใหม่ ในวันจันทร์ที่ 24 ม.ค.และจะมีการออกระเบียบ และหนึ่งในระเบียบที่จะออกโดยเร็ว คือ เรื่องที่ว่าด้วยการที่มีข้าราชการผู้ใดที่ปฏิบัติหน้าที่แล้วเป็นปัญหาในพื้นที่ จะสามารถให้เอาออกมาได้โดยมีกระบวนการที่ชัดเจน ซึ่งคนที่จะมีอำนาจ คือ เลขา ศอ.บต.
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีเลขาที่คิดไว้อยู่ในใจแล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีรักษาการอยู่แล้ว คือ นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และกระบวนการในการสรรหาหรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามกฎหมาย จะมีส่วนประธานสภาปรึกษาและผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ซึ่งระเบียบนี้จะให้เห็นชอบในวันจันทร์ที่ 24 ม.ค.เช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่า การสรรหาจะมีกฎเกณฑ์อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะดูจากบุคคลที่เห็นว่ามีความเข้าใจในประเด็นของพื้นที่ดี แต่ในขณะนี้ นายภานุ รักษาการอยู่ เมื่อถามว่า การที่ในระเบียบใหม่ที่ให้อำนาจเลขา ศอ.บต.ที่สามารถย้ายข้าราชการพลเรือนตั้งแต่ระดับ 10 ลงมา รวมถึงตำรวจได้ มีเหตุผลอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วกฎหมายใหม่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อที่จะให้เราบริหารจัดการได้อย่างมีเอกภาพมากยิ่งขึ้น เพราะความละเอียดอ่อนของการทำหน้าที่ข้าราชการในพื้นที่มีมาก และเราเห็นได้ชัดว่าช่วงใดในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการเป็นไปอย่างมีเอกภาพบนความเข้าใจ โดยเฉพาะตามแนวทางของรัฐบาลในเรื่องของการที่พยายามเข้าใจเข้าถึงปัญหาก็จะน้อยลง และในเรื่องของเงื่อนไข ซึ่งฝ่ายตรงกันข้ามนำไปใช้ขยายผลตลอดเวลา คือ เวลาที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง หรือมีลักษณะไปรังแกประชาชน เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เราต้องมีวิธีการจัดการที่แตกต่างจากพื้นที่อื่น จึงเป็นที่มาของการเพิ่มอำนาจตรงนี้
เมื่อถามว่า ในส่วนของงบประมาณจะซับซ้อนกับในส่วนของ กอ.รมน.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ เพราะทั้งหมดจะโอนมาอยู่แล้ว
