นครศรีธรรมราช - รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เผย ผลวิเคราะห์สถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่ พบว่า ระบาดมากขึ้น เพราะเศรษฐกิจดี เงินสะพัด และผู้ค้าปรับกลยุทธ์การตลาดด้วยการส่งของเป็นเงินเชื่อ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งปราบปรามอย่างหนัก
วันนี้ (13 ก.พ.) พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่นครศรีธรรมราช ว่า ในปัจจุบันพบว่ามีการระบาดมากขึ้นในพื้นที่ อ.เมือง อ.ทุ่งสง อ.ทุ่งใหญ่ อ.ฉวาง เป็นต้นซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเศรษฐกิจดี การเงินสะพัด อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดในส่วนนี้ พบว่า นอกจากในส่วนของผู้เสพแล้ว ผู้ค้ายังใช้กลยุทธ์การค้าแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะการส่งของเป็นเงินเชื่อ มีแรงจูงใจส่งยาออกไปก่อนเมื่อผู้ค้านำไปขายต่อแล้วค่อยนำเงินมาส่ง การค้านั้นมีส่วนต่างของผลกำไรมากผู้ค้าจึงมีความกล้าที่จะเสี่ยงมากขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องเร่งปราบปรามอย่างหนัก
“แตกต่างกับการค้ายาเสพติดในอดีต การซื้อขายแต่ละครั้งต้องนำเงินสดมาดูกันก่อนถึงจะยอมขายกัน เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้วแค่เชื่อกันสามารถเกิดการซื้อขายกันได้ ขณะเดียวกันมีการติดต่อที่สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเครือข่ายมีการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ไม่เคยเห็นหน้ากันก็มี เช่นกรณีการซื้อขายผ่านนักโทษในเรือนจำ” รอง ผบก.นครศรีธรรมราช กล่าว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ พ.ต.อ.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย ผกก.สภ.ต่างๆ ภายใต้การบังคับบัญชา ได้นำของกลางเป็นยาเสพติดประเภทต่างๆ เงินสดที่ถูกยึดจากเครือข่ายยาเสพติดนับแสนบาท อาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลจากการกวาดล้างในห้วงระยะเวลา 10-11 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามคำสั่ง ป.ป.ส.และ บช.ภ.8 เปิดแถลงข่าวว่า ในห้วงเวลา 2 วัน ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้น กวาดล้าง เป้าหมายที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดรวม 47 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย 15 ราย ผู้ต้องหารวม 20 คน ในคดีครอบครอง 21 ราย โดยมีของกลางเป็นยาบ้าจำนวนกว่า 5 พันเม็ด ยาไอซ์ 14.520 กรัม อาวุธปืนและเครื่องกระสุน 10 กระบอก เงินสดอีกหลายหมื่นบาท รถยนต์กระบะ 2 คัน
พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในการปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญที่มีการกระทำการเป็นเครือข่ายได้ 3 ราย ผู้ต้องหา 2 คน เป็นยาบ้า 4,137 เม็ด และยาเสพติดชนิดอื่นๆ โดยพบว่ามีเครือข่ายเชื่อมโยงมาจากผู้ต้องขังในเรือนจำนครศรีธรรมราช ซึ่งมีการขยายผลอย่างต่อเนื่องไปถึงตัวนักโทษที่เกี่ยวข้อง เมื่อจับนักค้าที่อยู่ข้างนอกได้เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจู่โจมเข้าตรวจค้นยึดโทรศัพท์นักโทษที่สั่งการค้ายาเสพติดได้คราวละหลายเครื่อง ขณะนี้ประสานกับเรือนจำอยู่ตลอดในการตรวจค้นสิ่งของต้องห้ามที่เข้าเรือนจำอย่างใกล้ชิด
“เรากำหนดบัญชีของผู้ค้าสำคัญ และได้กำหนดชุดปฏิบัติการออกตามไล่ล่าอย่างเข้มข้น ขณะนี้การค้ายาเสพติดได้พัฒนาการไปมาก เจ้าหน้าที่จับได้มากขึ้น มีการเพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดเข้ามามากขึ้น ผู้เสพเปลี่ยนเป็นผู้ค้ามากขึ้นโดยเฉพาะการใช้วิธีเงินเชื่อ ส่งสินค้าก่อนจ่ายทีหลัง ส่วนต่างของทุนและกำไรทำการค้าอย่างได้ผลมีผู้หลงผิดติดกับดักยาเสพติดเป็นจำนวนมาก ซึ่งตำรวจต้องเร่งในการปฏิบัติมากขึ้น”
พ.ต.อ.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้ประมาณกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ค้ายาเสพติดใช้ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยการใช้อาวุธปืน ขณะนี้เราเข้มงวดในเรื่องการมีและใช้อาวุธปืนของผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และจะร่วมกับฝ่ายปกครองลงลึกไปถึงการเพิกถอนใบอนุญาตสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
วันนี้ (13 ก.พ.) พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่นครศรีธรรมราช ว่า ในปัจจุบันพบว่ามีการระบาดมากขึ้นในพื้นที่ อ.เมือง อ.ทุ่งสง อ.ทุ่งใหญ่ อ.ฉวาง เป็นต้นซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเศรษฐกิจดี การเงินสะพัด อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดในส่วนนี้ พบว่า นอกจากในส่วนของผู้เสพแล้ว ผู้ค้ายังใช้กลยุทธ์การค้าแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะการส่งของเป็นเงินเชื่อ มีแรงจูงใจส่งยาออกไปก่อนเมื่อผู้ค้านำไปขายต่อแล้วค่อยนำเงินมาส่ง การค้านั้นมีส่วนต่างของผลกำไรมากผู้ค้าจึงมีความกล้าที่จะเสี่ยงมากขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องเร่งปราบปรามอย่างหนัก
“แตกต่างกับการค้ายาเสพติดในอดีต การซื้อขายแต่ละครั้งต้องนำเงินสดมาดูกันก่อนถึงจะยอมขายกัน เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้วแค่เชื่อกันสามารถเกิดการซื้อขายกันได้ ขณะเดียวกันมีการติดต่อที่สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเครือข่ายมีการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ไม่เคยเห็นหน้ากันก็มี เช่นกรณีการซื้อขายผ่านนักโทษในเรือนจำ” รอง ผบก.นครศรีธรรมราช กล่าว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ พ.ต.อ.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย ผกก.สภ.ต่างๆ ภายใต้การบังคับบัญชา ได้นำของกลางเป็นยาเสพติดประเภทต่างๆ เงินสดที่ถูกยึดจากเครือข่ายยาเสพติดนับแสนบาท อาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลจากการกวาดล้างในห้วงระยะเวลา 10-11 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามคำสั่ง ป.ป.ส.และ บช.ภ.8 เปิดแถลงข่าวว่า ในห้วงเวลา 2 วัน ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้น กวาดล้าง เป้าหมายที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดรวม 47 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย 15 ราย ผู้ต้องหารวม 20 คน ในคดีครอบครอง 21 ราย โดยมีของกลางเป็นยาบ้าจำนวนกว่า 5 พันเม็ด ยาไอซ์ 14.520 กรัม อาวุธปืนและเครื่องกระสุน 10 กระบอก เงินสดอีกหลายหมื่นบาท รถยนต์กระบะ 2 คัน
พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในการปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญที่มีการกระทำการเป็นเครือข่ายได้ 3 ราย ผู้ต้องหา 2 คน เป็นยาบ้า 4,137 เม็ด และยาเสพติดชนิดอื่นๆ โดยพบว่ามีเครือข่ายเชื่อมโยงมาจากผู้ต้องขังในเรือนจำนครศรีธรรมราช ซึ่งมีการขยายผลอย่างต่อเนื่องไปถึงตัวนักโทษที่เกี่ยวข้อง เมื่อจับนักค้าที่อยู่ข้างนอกได้เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจู่โจมเข้าตรวจค้นยึดโทรศัพท์นักโทษที่สั่งการค้ายาเสพติดได้คราวละหลายเครื่อง ขณะนี้ประสานกับเรือนจำอยู่ตลอดในการตรวจค้นสิ่งของต้องห้ามที่เข้าเรือนจำอย่างใกล้ชิด
“เรากำหนดบัญชีของผู้ค้าสำคัญ และได้กำหนดชุดปฏิบัติการออกตามไล่ล่าอย่างเข้มข้น ขณะนี้การค้ายาเสพติดได้พัฒนาการไปมาก เจ้าหน้าที่จับได้มากขึ้น มีการเพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดเข้ามามากขึ้น ผู้เสพเปลี่ยนเป็นผู้ค้ามากขึ้นโดยเฉพาะการใช้วิธีเงินเชื่อ ส่งสินค้าก่อนจ่ายทีหลัง ส่วนต่างของทุนและกำไรทำการค้าอย่างได้ผลมีผู้หลงผิดติดกับดักยาเสพติดเป็นจำนวนมาก ซึ่งตำรวจต้องเร่งในการปฏิบัติมากขึ้น”
พ.ต.อ.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้ประมาณกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ค้ายาเสพติดใช้ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยการใช้อาวุธปืน ขณะนี้เราเข้มงวดในเรื่องการมีและใช้อาวุธปืนของผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และจะร่วมกับฝ่ายปกครองลงลึกไปถึงการเพิกถอนใบอนุญาตสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด