พัทลุง - ผู้ประกอบการรับซื้อไม้ยางพาราเฮกับราคาที่สูงขึ้น แต่เกษตรกรบางรายก็ยังคงกรีดยางต่อไป เนื่องจากราคาน้ำยางและยางแผ่นมีราคาที่สูง จึงเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรไม่ตัดโค่นต้นยางที่หมดสภาพแล้ว และทั้งโรงไม้ยางแปรรูปและโรงงานต่างๆ ก็ได้หันมาใช้ไม้ฟืนแทนน้ำมันที่มีราคาสูงอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (10 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า สถานการณ์ราคาไม้ยางพาราเริ่มปรับราคาขึ้น หลังจากที่เจ้าของผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางอย่างโรงงานถุงมือ โรงรมยางแผ่นดิบ และโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางได้มีความต้องการวัตถุดิบเพิ่มมากขึ้นเพื่อนำไม้ยางพารามาแปรรูปทำเฟอร์นิเจอร์ขายส่งออก และโรงงานถุงมือ โรงรมยางหลายแห่ง ได้เปลี่ยนมาใช้ไม้ฟืนแทนน้ำมันที่มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้ราคาไม้ยางพาราในพื้นที่ จ.พัทลุง มีราคาสูงขึ้น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ในราคาไร่ละ 180,000-200,000 บาท แต่เกษตรกรที่ต้นยางพาราหมดสภาพยังไม่ทยอยขาย ทั้งนี้เนื่องจากราคาน้ำยางและยางแผ่น มีราคาที่สูงจึงเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรไม่ตัดโค่น และยังเปิดกรีดต่อไปได้
ผู้ประกอบการรับชื้อไม้ยางพารารายหนึ่งเปิดเผยว่าจากสภาวะดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการรับซื้อไม้ยางพาราเริ่มยิ้มออกกับราคาที่สูงขึ้นในช่วงนี้ โดยราคาไม้เกรดขนาด 6 นิ้วขึ้นไป ความยาว 105 ซม.ราคาเดิมกิโลกรัมละ 1.80 บาท ขณะนี้ราคาปรับขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 3 บาท ซึ่งไม้ฟืนจากเดิมราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-80 สตางค์ ได้ปรับขึ้นเป็น 1.40-1.60 บาท เช่นกัน