ระนอง-ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจังหวัดระนอง รับเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพกว่า 5 ล้านบาท
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้(27 ม.ค.54) นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดระนอง เป็นประธานมอบสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย สาขาระนอง ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือประกอบอาชีพให้แก่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจังหวัดระนอง จำนวน 24 ราย ๆ ละ 225,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,400,000 บาท ที่ห้องเรืองราษฎร์ โรงแรมทินิดีระนอง
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า หลังจากได้มีประกาศคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ลงวันที่ 23 เมษายน 2523 ให้สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ออกมามอบตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และรัฐบาลในขณะนั้นได้กำหนดนโยบายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. ดำเนินการให้ความช่วยเหลือแบ่งเป็น 3 ครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2525-2552
รวมมีผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วทั้งสิ้น 3,405 ราย แต่ยังมีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออีกจำนวนมาก ดังนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 190/2552 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน ซึ่งได้พิจารณาคัดกรองผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่สมควรได้รับความช่วยเหลือเป็นค่าประกอบอาชีพจากรัฐบาล จำนวน 9,181 ราย ๆ ละ 225,000 บาท สำหรับจังหวัดระนอง มีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่ผ่านการคัดกรองและสมควรได้รับความช่วยเหลือ จำนวนทั้งสิ้น 24 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,400,000 บาท
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ขอให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล นำเงินไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยยึดหลักแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จักเก็บออม ลดรายจ่ายด้วยการไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทุกชนิด
นายสุคม การชนะ อายุ 58 ปี หรือ สหายบุญสม กล่าวว่า ตนเองเคยเข้าป่าเคลื่อนไหวในช่วงปี 2523-2528 เขตพื้นที่ จ.ระนอง ชุมพร พังงา และสุราษฎร์ธานี แต่เมื่อรัฐบาลในขณะนั้นมีนโยบายให้มอบตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจึงตัดสินใจออกจากป่า ซึ่งรู้สึกดีใจและขอขอบคุณรัฐบาลที่ให้เงินช่วยเหลือในการประกอบอาชีพ จะเอาเงินที่ได้ไปซื้อวัวเลี้ยง ซึ่งปัจจุบันตนเองประกอบอาชีพทำสวนยางพาราอยู่ที่อำเภอสุขสำราญ จ.ระนอง
