ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- กองทัพภาค 2 มอบเงินช่วยเหลือด้านประกอบอาชีพ “สหายอีสาน” กลุ่มแรก 4 จังหวัด 724 ราย รวมกว่า 160 ล้าน ส่วนที่เหลืออีกกว่า 5,000 ราย อยู่ระหว่างพิจารณา เหตุมีเรื่องร้องเรียนกันเอง คาดจ่ายช่วยเหลือครบทั้งหมดไม่เกินสิ้นเดือน ก.พ.นี้แน่
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เป็นประธานพิธีมอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพ ให้กับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) กลุ่มที่ 1 จำนวน 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด และ จ.สุรินทร์ จำนวน 724 ราย รวมเป็นเงินกว่า 162 ล้านบาท
พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้การช่วยเหลือผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่มีความเดือดร้อน ด้านการประกอบอาชีพโดยแต่งตั้งคณะกรรมการในการดำเนินการเป็น 3 ระดับ คือ ระดับรัฐบาล โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเป็นประธาน ระดับภาคมี แม่ทัพภาคที่ 2 หรือ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 เป็นประธาน และระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเป็นประธาน โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน พ.ย.2552 เป็นต้นมา
ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ครั้งที่ 1 เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพให้แก่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนทั้ง 4 ภาค รวม 38 จังหวัด จำนวน 2,452 คน รวมเป็นเงิน 555,400,000 บาท ในส่วนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 มีจำนวน 724 คน รวมเป็นเงิน 162,900,000 บาท แบ่งเป็น จ.นครราชสีมา 148ราย, มหาสารคาม 54 ราย, ร้อยเอ็ด 1 ราย, สุรินทร์ 137 ราย และ อำนาจเจริญ 384 ราย สำหรับผู้เสียชีวิต 6 ราย จะดำเนินการตามระเบียบของทางราชการ เพื่อมอบให้กับทายาทโดยธรรมต่อไปภายหลัง
พล.ท.ธวัชชัย กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยยื่นความจำนงขอรับการช่วยเหลือมาประมาณ กว่า 6,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย ขณะนี้ได้รับเงินช่วยเหลือแล้วกว่า 700 ราย ส่วนที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการเนื่องจากเรื่องเรียนกันเอง
“อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยทั้งหมดจะได้รับเงินช่วยเหลือทุกราย เพียงแต่ต้องทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน คาดว่าจะเรียบร้อยทั้งหมดในเดือน ก.พ.นี้แน่นอน” พล.ท.ธวัชชัย กล่าว