ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตจัดเปิดโครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยในจังหวัดภูเก็ต 100% นำร่องดำเนินการต่อในพื้นที่จังหวัดอื่น หลังประสบความสำเร็จการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100% เป็นจังหวัดแรกของประเทศ ขณะที่รองนายกฯระบุกำหนดให้ปี 2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางทางถนนเป้าหมายลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุให้ได้ 50%
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (23 ม.ค.) ที่บริเวณสนามชัย ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยในจังหวัดภูเก็ต 100% พร้อมปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์จำนวน 10,000 คัน ซึ่งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายพร้อมใจกันสวมใส่หมวกนิรภัยขับรถรณรงค์ไปรอบตัวเมืองภูเก็ต
โดยมีนางอัญชลี วานิช เทพบุตร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 8 ตลอดจนคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุย้อนหลัง 5 ปี จังหวัดภูเก็ตมีประชาชนต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ปีละกว่า 200 ราย บาดเจ็บสาหัส 5,699 ราย บาดเจ็บธรรมดา 61,141 ราย มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจรวมประมาณปีละ 7,290 ล้านบาท หรือเดือนละ 280 ล้านบาท ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดจากรถจักรยานยนต์ 80% และส่วนใหญ่ไม่สวมหมวกนิรภัย
จากความสูญเสียและความเสียหายดังกล่าว ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจึงได้จัดทำโครงการรณรงค์ให้ประชาชนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้นั่งซ้อนท้าย 100% ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553 เป็นต้นมา และกำหนดให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในวันที่ 1 กรกฎาคม 2553 ปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยคนขับและคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ในพื้นจังหวัดภูเก็ตพร้อมใจกันสวมหมวกนิรภัยเป็นส่วนมาก โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครภูเก็ต ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เห็นความสำคัญจึงได้ส่งคณะทำงานมาศึกษารูปแบบ เก็บข้อมูลวิเคราะห์เพื่อนำไปเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นๆ ดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากการดำเนินการประสบความสำเร็จในเขตเทศบาลนครภูเก็ต ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้ขยายโครงการรณรงค์ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 เป็นต้นมา และกำหนดบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554
นายตรีกล่าวต่อว่า สถิติอุบัติเหตุที่เกิดจากจักรยานยนต์ ก่อนที่จะมีการรณรงค์ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตพบว่ามีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยเดือนละ 16 ราย เมื่อเริ่มโครงการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในเรื่องของการสวมหมวกนิรภัย ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจักรยานยนตลดลง 50% ด้วยสาเหตุดังกล่าว ทำให้พี่น้องประชาชนเห็นความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัย จึงได้ให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง นับเป็นแบบอย่างที่ดี และเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดภูเก็ตที่ได้ดำเนินการโครงการนี้จนประสบความสำเร็จเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย
นายสุเทพกล่าวว่า โครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยในจังหวัดภูเก็ต 100% เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนซึ่งเป็นตัวอย่างและโครงการนำร่องที่จะให้จังหวัดอื่นๆ นำไปปฏิบัติ เรื่องของการลดอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่สำคัญที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาการ การลดอุบัติเหตุทางถนนนั้นต้องอาศัยความเข้มแข็งของทุกฝ่าย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสีย
โดยในปี 2011-2020 องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้เป็นปีแห่งความปลอดภัยและในส่วนของรัฐบาลไทยได้กำหนดให้ปี 2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนนโดยมีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้ได้ 50% ในปี 2563
ทั้งนี้ การดำเนินการแก้ไปปัญหานั้นจะต้องมีการแก้ไขปัจจัยเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสูง คือ พฤติกรรมของคนที่ไม่มีใบขับขี่ ขับรถเร็ว เมาแล้วขับ รวมทั้งเรื่องของโครงสร้างถนนวิศวกรรมจราจรเรื่องของการวางผังเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขรวมทั้งการตรวจสอบจุดเสี่ยงต่างๆ และที่สำคัญจะต้องดำเนินการเข้มงวดในเรื่องของการบังคับใช้กฏหมาย
นายสุเทพกล่าวว่า ต่อไปนี้เพื่อป้องกันและลดอุบัติทางถนนต่อไปนี้จะต้องมีการเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบเรื่องของรถสาธารณะ เช่น รถตู้ รถโรงเรียน ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ารถตู้ส่วนใหญ่จะบรรทุกผู้โดยสารเกินที่กฎหมายกำหนด