สตูล - ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสตูล ยืนยันได้รับผลกระทบเรื่องปะการังฟอกขาวน้อย และพร้อมปรับทริปท่องเที่ยวให้เหมาะสม เผยการประกาศปิดจุดดำน้ำที่ไม่ชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยวชะงัก และต้องสูญเสียรายได้ช่วงเทศกาลตรุษจีน และวาเลนไทน์ ไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท
วันนี้ (22 ม.ค.) นายบูรณศักดิ์ ฤกษ์สำรวจ ผู้อำนวยท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานตรัง กล่าวว่า หลังกระแสข่าวที่ปะการังฟอกขาวเกิดขึ้น และมีข่าวออกมาว่าปิดฝั่งอันดามันก่อนเจ้าหน้าที่ระบุสถานที่ดำน้ำ ข่าวที่แพร่ออกไปทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาเที่ยวกันในช่วงปลายสิ้นเดือนมกราคม และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่เป็นเดือนแห่งความรัก จะสั่งจองที่พักและดำน้ำดูปะการัง ต่างไม่แน่ใจว่าจะท่องเที่ยวได้หรือไม่ ซึ่งมีการโทรศัพท์สอบถามกันจำนวนมาก โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ต้องเร่งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการทำทัวร์ และนักท่องเที่ยว และผู้ทำธุรกิจดำน้ำ โดยชี้แจ้งว่าอุทยานฯสั่งหยุดพื้นที่ดำน้ำบางจุดชั่วคราว
สำหรับพื้นที่ จ.สตูล ที่มีการกำหนดจุดงดกิจกรรมดำน้ำ ในหมู่เกาะอุทยานแห่งชาติเภตรา คือ เกาะบุโหลนดอนรังผึ้ง เกาะบุโหลนไม้ไผ่ อุทยานฯตะรุเตา เกาะหินงาม ราวี เกาะหาดทรายขาว เกาะดง หากอุทยานฯ ระบุไม่แน่ชัดในการปิดพื้นที่ดำน้ำในภาพรวมทั้งหมด เชื่อได้ว่ารายได้การท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนและช่วงวันวาเลนไทน์ที่มีนักท่องเที่ยวแห่เที่ยวลงเกาะจังหวัดตรัง และสตูลเสียหายขาดรายได้เป็นเม็ดเงินไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาทอย่างแน่นอน
นายเจตกร หวันสู ผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน จ.สตูล กล่าวว่า การให้ข้อมูลว่าพื้นที่ตรงไหนเกิดปะการังฟอกขาวในพื้นที่ไหนบhาง ซึ่งข้อมูลยังไม่แน่ชัดว่าพื้นที่ไหนดำน้ำได้ไหม และดำไม่ได้ ซึ่งทางเราก็สามารถที่จะแก้ไขจัดทริปอื่นให้กับนักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวได้ แต่ก็ถือว่ายังไม่เสียหายทั้งหมดในภาพรวม แต่ต้องกำหนดพื้นที่นั้น ซึ่งสตูลยังมีพื้นที่ดำน้ำดูปะการังได้หลายๆพื้นที่ บวกกับเราช่วยกันดูแลทรัพยากรสิ่งแวดล้อมธรรมชาติทางทะเลได้อีกทาง
ส่วนทางท่องเที่ยวทางทะเลไม่ใช้ว่าจะดำน้ำดูปะการังอย่างเดียว แต่ความเป็นธรรมชาติอื่นๆสามารถทำให้นักท่องเที่ยวชมได้ เช่น บรรยากาศท้องทะเลที่สวยงาม เพียงเราต้องวางแผนให้ดี และการกระจายข่าวเรื่องปิดพื้นที่ต้องระบุให้แน่ชัดต้องคำนึงถึงประเทศไทยเศรษฐกิจที่ดี มาจากการท่องเที่ยวเมืองไทยอีกทางที่มีเงินสะพัดเข้ามามากมายแต่ละปี
วันนี้ (22 ม.ค.) นายบูรณศักดิ์ ฤกษ์สำรวจ ผู้อำนวยท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานตรัง กล่าวว่า หลังกระแสข่าวที่ปะการังฟอกขาวเกิดขึ้น และมีข่าวออกมาว่าปิดฝั่งอันดามันก่อนเจ้าหน้าที่ระบุสถานที่ดำน้ำ ข่าวที่แพร่ออกไปทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาเที่ยวกันในช่วงปลายสิ้นเดือนมกราคม และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่เป็นเดือนแห่งความรัก จะสั่งจองที่พักและดำน้ำดูปะการัง ต่างไม่แน่ใจว่าจะท่องเที่ยวได้หรือไม่ ซึ่งมีการโทรศัพท์สอบถามกันจำนวนมาก โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ต้องเร่งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการทำทัวร์ และนักท่องเที่ยว และผู้ทำธุรกิจดำน้ำ โดยชี้แจ้งว่าอุทยานฯสั่งหยุดพื้นที่ดำน้ำบางจุดชั่วคราว
สำหรับพื้นที่ จ.สตูล ที่มีการกำหนดจุดงดกิจกรรมดำน้ำ ในหมู่เกาะอุทยานแห่งชาติเภตรา คือ เกาะบุโหลนดอนรังผึ้ง เกาะบุโหลนไม้ไผ่ อุทยานฯตะรุเตา เกาะหินงาม ราวี เกาะหาดทรายขาว เกาะดง หากอุทยานฯ ระบุไม่แน่ชัดในการปิดพื้นที่ดำน้ำในภาพรวมทั้งหมด เชื่อได้ว่ารายได้การท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนและช่วงวันวาเลนไทน์ที่มีนักท่องเที่ยวแห่เที่ยวลงเกาะจังหวัดตรัง และสตูลเสียหายขาดรายได้เป็นเม็ดเงินไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาทอย่างแน่นอน
นายเจตกร หวันสู ผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน จ.สตูล กล่าวว่า การให้ข้อมูลว่าพื้นที่ตรงไหนเกิดปะการังฟอกขาวในพื้นที่ไหนบhาง ซึ่งข้อมูลยังไม่แน่ชัดว่าพื้นที่ไหนดำน้ำได้ไหม และดำไม่ได้ ซึ่งทางเราก็สามารถที่จะแก้ไขจัดทริปอื่นให้กับนักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวได้ แต่ก็ถือว่ายังไม่เสียหายทั้งหมดในภาพรวม แต่ต้องกำหนดพื้นที่นั้น ซึ่งสตูลยังมีพื้นที่ดำน้ำดูปะการังได้หลายๆพื้นที่ บวกกับเราช่วยกันดูแลทรัพยากรสิ่งแวดล้อมธรรมชาติทางทะเลได้อีกทาง
ส่วนทางท่องเที่ยวทางทะเลไม่ใช้ว่าจะดำน้ำดูปะการังอย่างเดียว แต่ความเป็นธรรมชาติอื่นๆสามารถทำให้นักท่องเที่ยวชมได้ เช่น บรรยากาศท้องทะเลที่สวยงาม เพียงเราต้องวางแผนให้ดี และการกระจายข่าวเรื่องปิดพื้นที่ต้องระบุให้แน่ชัดต้องคำนึงถึงประเทศไทยเศรษฐกิจที่ดี มาจากการท่องเที่ยวเมืองไทยอีกทางที่มีเงินสะพัดเข้ามามากมายแต่ละปี