ศูนย์ข่าวภูเก็ต -งบ พอช.80 ล้านบาทที่สนับสนุนสาธารณูปโภคให้กับชุมชนในภูเก็ตยังใช้ไม่ได้ ติดปัญหาที่ดินชุมชนอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลน ด้านประธาน พอช.ชี้ ปัญหาแก้ได้หากฝ่ายราชการร่วมมือกับชุมชนโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (20 ม.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนต่างๆในจังหวัดภูเก็ตและคณะทำงานเร่งรัดแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชุมชน โดยมี พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานคณะกรรมการสถาบันคนจนจังหวัดภูเก็ต (พอช.) นางปรีดา คงแป้น ตัวแทนจากมูลนิธิชุมชนไท นางสาวฒุฒิพร ทิพย์วงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายสิทธิคนจนพัฒนาภูเก็ต ตัวแทนจากชุมชนต่างๆ ในภูเก็ต และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยการประชุมในครั้งนี้ เป็นการติดตามปัญหาของชุมชนในภูเก็ตที่ทาง พอช.ได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 80 ล้านบาท ให้กับ 13 ชุมชนในภูเก็ต เพื่อสนับสนุนสาธารณูปโภคให้กับชุมชน แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ที่ชุมชนซอยกิ่งแก้ว จำนวน 13 ล้านบาท ชุมชนประชาอุดม 9.6 ล้านบาท เนื่องจากติดปัญหาด้านกฎหมาย เนื่องจากชุมชนดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลน และขัดกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ บางชุมชนตั้งอยู่ในที่ราชพัสดุ เจ้าท่า เป็นต้น ซึ่งไม่สามารถที่จะดำเนินการอะไรในพื้นที่ดังกล่าวได้ จึงได้มีการนำเสนอให้มีจัดทำความมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน และไม่ทำลายทรัพยากรป่าชายเลน
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ข้อสรุป ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องหารือร่วมกับทางชุมชนในระดับอำเภอ ว่ายังมีปัญหาอะไรบ้างที่ไม่สามารถแก้ได้ในระดับอำเภอ เสนอมายังจังหวัดในการแก้ไขปัญหาต่อไป
พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานคณะกรรมการสถาบันคนจนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาชุมชนในภูเก็ตมีมากมายที่จะต้องได้รับการแก้ไข แต่ปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการคือปัญหาที่พอช.ได้อนุมัติงบประมาณ 80 ล้านบาท ในการสนับสนุนสาธารณูปโภคให้กับชุมชนต่างๆในภูเก็ต เมื่อสองปีที่แล้ว แต่บางชุมชนไม่สามารถนำงบดังกล่าวมาดำเนินการได้ เนื่องจากติดปัญหาที่ดินที่เกิดจากความไม่ร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับชุมชน ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหน่วยงานภาครัฐยึดถือกฎหมายเกินไปหรือไม่ หากจะยึดตามกฎหมายจริงคิดว่าฝ่ายราชการน่าจะติดคุกนานแล้ว เพราะเพิกเฉยการปฎิบัติหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้ชาวบ้านเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน
โดยปัญหาดังกล่าวจะต้องร่วมมือกันระหว่างรัฐกับชุมชน เพราะเราไม่สามารถที่จะเอาคนออกจากชุมชนนั้นได้แล้วในขณะนี้ สิ่งที่จะต้องดำเนินการ คือ ส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง รักษาสภาพสิ่งแวดล้อม และฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับคืนมา โดนให้ชมุชนเข้าไปดูแล
“การแก้ปัญหาดังกล่าวผมมองว่าเป็นเรื่องไม่ยากเลย หากตัดเรื่องผลประโยชน์ออกไป และการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อขาย ให้เช่า จะต้องยุติทั้งหมด” พล.อ.สุรินทร์ กล่าว
