นราธิวาส - เกษตรกรปลูกปาล์มบาเจาะเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย แม้ราคาปาล์มจะสูงขึ้นแต่ก็ไม่ได้รับประโยชน์จากราคาปาล์มแต่อย่างใด จนรายได้ลดลง และโรงงานก็ขาดแคลนผลผลิตที่จะนำมาแปรรูปเป็นน้ำมันดิบมาก ซึ่งสวนทางกับความต้องการของตลาดที่มียอดสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก
วันนี้ (13 ม.ค.) นายอับดุลนาเซ มะรือสะ ผู้จัดการสหกรณ์นิคมบาเจาะ จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มเกษตรกรปลูกปาล์มในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย ต้นปาล์มถูกน้ำท่วมขังได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง เกษตรกรไม่สามารถเก็บผลผลิตปาล์มมาจำหน่ายได้ ถึงแม้ในช่วงนี้ราคาผลผลิตปาล์มจะพุ่งสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 8.30 บาท แต่เกษตรกรกลับไม่ได้รับประโยชน์จากราคาปาล์มแต่อย่างใด อีกทั้งปัจจุบันเกษตรกรยังมีรายได้ลดลงเนื่องจากระดับน้ำในสวนปาล์มสูงกว่า 1 เมตร ทำให้เข้าไปเก็บผลปาล์มไม่ได้ รายได้ลดจากเดือนละ 9,000 บาท เหลือ 2,000 บาท
นายคอรี สาเระ ผู้จัดการโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มสหกรณ์บาเจาะ กล่าวว่า ขณะนี้โรงงานขาดแคลนผลผลิตที่จะนำมาแปรรูปเป็นน้ำมันดิบมาก ซึ่งจากเดิมผู้ปลูกปาล์ม และสหกรณ์นิคมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะส่งผลผลิตปาล์มเข้าสู่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มสหกรณ์บาเจาะ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแปรรูปน้ำมันปาล์มใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มากถึงเดือนละ 1,000 ตัน
แต่ขณะนี้สามารถนำเข้ามาแปรรูปได้เพียง 500 ตันหรือน้อยกว่านั้น ทำให้โรงงานสามารถแปรรูปน้ำมันดิบป้อนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่ จ.ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ลดลงกว่า 50% ซึ่งสวนทางกับความต้องการของตลาดที่มียอดสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก