นราธิวาส - สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย ได้ล้นตลิ่ง ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ทำให้พื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่ราบลุ่ม 11 อำเภอ เสียหาย ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งอพยพชาวบ้าน -สิ่งของที่จำเป็น ไปอยู่ในที่ที่จัดเตรียมไว้ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค-น้ำดื่ม
วันนี้ (8 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ล่าสุดฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องเป็นเวลา 6 วันติดต่อกัน ก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย ได้ล้นตลิ่งและไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มขยายวงกว้าง 182 หมู่บ้าน 49 ตำบลในพื้นที่ 11 อำเภอแล้ว ประกอบด้วย อ.บาเจาะ , อ.เจาะไอร้อง , อ.รือเสาะ , อ.ตากใบ , อ.จะแนะ , อ.สุไงปาดี , อ.แว้ง , อ.สุไหงโก-ลก , อ.ระแงะ , อ.ยี่งอ และ อ.เมือง ทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 10,014 ครัวเรือน รวม 38,446 คน
โดยเฉพาะราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง และ อ.ตากใบ ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้หนักที่สุด ซึ่งเป็นผลพวงหลังจากเจ้าหน้าที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้ทำการระบายน้ำที่ท่วมขังบ้านเรือนของราษฎรที่ปลูกสร้างอยู่ริมถนนสายรัฐกลันตัน-เมืองโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย ลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่มีปริมาณน้ำล้นตลิ่งอยู่แล้ว จึงได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎรในพื้นที่ 3 อำเภอ ของไทย ที่ปลูกสร้างอยู่ตลอดแนวริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก อย่างรวดเร็ว โดยมีระดับน้ำท่วมขังสูงภาพรวมเฉลี่ย 70-100 ซ.ม.
ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 36 ซึ่งตั้งฐานอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่มูลนิธิธารน้ำใจสุไหงโก-ลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอพยพชาวบ้าน และสิ่งของสัมภาระที่จำเป็นซึ่งอยู่ในจุดเสี่ยง ไปอาศัยอยู่ในสถานที่ที่แต่ละอำเภอจัดเตรียมไว้ให้ ชั่วคราว พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและน้ำดื่มให้กับกลุ่มราษฎรดังกล่าวได้ใช้ประทังชีวิตในเบื้องต้น
วันนี้ (8 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ล่าสุดฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องเป็นเวลา 6 วันติดต่อกัน ก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย ได้ล้นตลิ่งและไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มขยายวงกว้าง 182 หมู่บ้าน 49 ตำบลในพื้นที่ 11 อำเภอแล้ว ประกอบด้วย อ.บาเจาะ , อ.เจาะไอร้อง , อ.รือเสาะ , อ.ตากใบ , อ.จะแนะ , อ.สุไงปาดี , อ.แว้ง , อ.สุไหงโก-ลก , อ.ระแงะ , อ.ยี่งอ และ อ.เมือง ทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 10,014 ครัวเรือน รวม 38,446 คน
โดยเฉพาะราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง และ อ.ตากใบ ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้หนักที่สุด ซึ่งเป็นผลพวงหลังจากเจ้าหน้าที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้ทำการระบายน้ำที่ท่วมขังบ้านเรือนของราษฎรที่ปลูกสร้างอยู่ริมถนนสายรัฐกลันตัน-เมืองโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย ลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่มีปริมาณน้ำล้นตลิ่งอยู่แล้ว จึงได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎรในพื้นที่ 3 อำเภอ ของไทย ที่ปลูกสร้างอยู่ตลอดแนวริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก อย่างรวดเร็ว โดยมีระดับน้ำท่วมขังสูงภาพรวมเฉลี่ย 70-100 ซ.ม.
ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 36 ซึ่งตั้งฐานอยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่มูลนิธิธารน้ำใจสุไหงโก-ลก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอพยพชาวบ้าน และสิ่งของสัมภาระที่จำเป็นซึ่งอยู่ในจุดเสี่ยง ไปอาศัยอยู่ในสถานที่ที่แต่ละอำเภอจัดเตรียมไว้ให้ ชั่วคราว พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและน้ำดื่มให้กับกลุ่มราษฎรดังกล่าวได้ใช้ประทังชีวิตในเบื้องต้น
