นราธิวาส - จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย โดยเฉพาะแม่น้ำสุไหงโก-ลก ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านริมตลิ่งในพื้นที่ 8 อำเภอ และล่าสุดจังหวัดได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ
วันนี้ (7 ม.ค.) รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า บรรยากาศโดยทั่วไปบนท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนแพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงค่ำของคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย โดยเฉพาะแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งอยู่แล้ว ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
จากผลพวงของน้ำป่าที่มีต้นกำเนิดอยู่บนเทือกเขาสันการาคีรี ในพื้นที่ อ.สุคิริน ได้ไหลทะลักลงมาสมทบ และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มริมตลิ่งตลอดแนวของแม่น้ำสุไหงโก-ลก รวมไปถึงพื้นที่ราบลุ่มที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณริมคลองสายต่างๆในพื้นที่ 8 อำเภอ คือ อำเภอสุหงโก-ลก รือเสาะ จะแนะ ยี่งอ แว้ง เจาะไอร้อง สุไหงปาดีและอำเภอระแงะ โดยเฉพาะอำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงสุดอยู่ในระดับ 50-80 ซ.ม. คือบริเวณชุมชนหัวสะพานเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอพยพชาวบ้านจำนวน 140 คน ไปอาศัยอยู่ใต้ถุนอาคารเอนกประสงค์ของโรงเรียนเทศบาล 4 บ้านทรายทองเป็นการชั่วคราว พื้นที่น้ำท่วมขังรองลงมาอยู่ในพื้นที่ อ.แว้งและอำเภอระแงะ ซึ่งมีระดับน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 40-70 ซ.ม. และทางการได้ช่วยกันอพยพราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมในครั้ง จำนวน 45 ราย ไปอาศัยอยู่ที่บริเวณศูนย์คัดแยกผลไม้ของแต่ละอำเภอเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันอุทกภัยวาตภัยและดินโคลนถล่ม จังหวัดนราธิวาส ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้แล้ว จำนวน 8 อำเภอ คือ อ.สุไหงโก-ลก รือเสาะ จะแนะ ยี่งอ แว้ง เจาะไอร้อง สุไหงปาดีและ อ.ระแงะ เพื่อความสะดวกในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือราษฎร ที่ได้รับความเดือดร้อนในทุกๆด้านไปอย่างราบรื่นและทันท่วงที
วันนี้ (7 ม.ค.) รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า บรรยากาศโดยทั่วไปบนท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนแพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงค่ำของคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย โดยเฉพาะแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งอยู่แล้ว ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
จากผลพวงของน้ำป่าที่มีต้นกำเนิดอยู่บนเทือกเขาสันการาคีรี ในพื้นที่ อ.สุคิริน ได้ไหลทะลักลงมาสมทบ และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มริมตลิ่งตลอดแนวของแม่น้ำสุไหงโก-ลก รวมไปถึงพื้นที่ราบลุ่มที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณริมคลองสายต่างๆในพื้นที่ 8 อำเภอ คือ อำเภอสุหงโก-ลก รือเสาะ จะแนะ ยี่งอ แว้ง เจาะไอร้อง สุไหงปาดีและอำเภอระแงะ โดยเฉพาะอำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงสุดอยู่ในระดับ 50-80 ซ.ม. คือบริเวณชุมชนหัวสะพานเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอพยพชาวบ้านจำนวน 140 คน ไปอาศัยอยู่ใต้ถุนอาคารเอนกประสงค์ของโรงเรียนเทศบาล 4 บ้านทรายทองเป็นการชั่วคราว พื้นที่น้ำท่วมขังรองลงมาอยู่ในพื้นที่ อ.แว้งและอำเภอระแงะ ซึ่งมีระดับน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 40-70 ซ.ม. และทางการได้ช่วยกันอพยพราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมในครั้ง จำนวน 45 ราย ไปอาศัยอยู่ที่บริเวณศูนย์คัดแยกผลไม้ของแต่ละอำเภอเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันอุทกภัยวาตภัยและดินโคลนถล่ม จังหวัดนราธิวาส ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้แล้ว จำนวน 8 อำเภอ คือ อ.สุไหงโก-ลก รือเสาะ จะแนะ ยี่งอ แว้ง เจาะไอร้อง สุไหงปาดีและ อ.ระแงะ เพื่อความสะดวกในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือราษฎร ที่ได้รับความเดือดร้อนในทุกๆด้านไปอย่างราบรื่นและทันท่วงที