พัทลุง – พื้นที่นาข้าวและสวนผลไม้ในจังหวัดพัทลุง ประสบปัญหาภัยแล้งแล้วกว่า 4,000 ไร่ ขณะที่จังหวัดพัทลุงได้ประกาศใน อ.ป่าบอน อ.ปากพะยูน และ อ.เมือง เป็นเขตภัยพิบัติ
วันนี้ (22 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดพัทลุงเริ่มเข้าขั้นวิกฤต หลังฝนทิ้งช่วงมานานกว่า 3 เดือน แหล่งน้ำธรรมชาติแห้ง และลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้พื้นที่การเกษตรนาข้าวใน ต.ชัยบุรี ต.พญาขันต์ อ.เมือง ที่เกษตรกรปลูกมาได้ 2 เดือนกำลังยืนต้นแห้งตายกว่า 40,000 ไร่ ซึ่งชาวนาบางส่วนที่พอมีหวังต่างเร่งวิดน้ำเข้านาหวังคืนทุน
นอกจากนาข้าวแล้ว พื้นที่สวนผลไม้ใน อ.ปากพะยูน อ.ป่าบอน นับพันไร่ก็กำลังยืนต้นแห้งตายเช่นกัน เนื่องจากแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอด เกษตรกรไม่สามารถชักน้ำมารดได้
ด้าน นายธนกร ตระบันพฤกษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า จังหวัดพัทลุงมีพื้นที่เสี่ยงภัยจำนวน 62 ตำบล 350 หมู่บ้านครอบคลุมทั้ง 11 อำเภอ สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่มีแนวโน้มว่ามีความรุนแรง และได้รับความเดือดร้อนแล้ว 3 อำเภอ ซึ่งจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสพภัยพิบัติแล้วคือ อำเภอป่าบอน อำเภอปากพะยูน และอำเภอเมือง พร้อมเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน